ฆ้อง เป็นเครื่องตีที่ทำด้วยโลหะ มีปุ่มกลมตรงกลาง และมีฐานแผ่ออกไปโดยรอบ หักงุ้มออกไปเป็นขอบคนละด้านกับปุ่มที่โป่งออกมา ขอบที่หักงุ้มออกมานั้นเรียกว่า ฉัตร และที่ขอบฉัตรจะเจาะรู 2 รู ไว้ร้อยเส้นเชือกหรือเส้นหนังสำหรับถือ หรือห้อยไว้กับราว
         เวลาตีใช้ไม้ตีตรงปุ่มกลางฆ้อง ให้เกิดเสียงดังกังวาน ที่หัวไม้ตีมีการพันด้วยผ้า หุ้มและถักหรือรัดด้วยด้ายให้แน่น ไม้ตีมีขนาดแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับการใช้งาน สำหรับโลหะที่ใช้หล่อก็มีความหนาบางไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับขนาดของฆ้องแต่ละใบเช่นกัน ฆ้องที่เราพบเห็นในการประสมวงกลองประเภทต่างๆ ส่วนใหญ่มีอยู่ 2 ใบ คือ ฆ้องอุ้ย (ใบใหญ่) ฆ้องโหย้งหรือฆ้องโมง (ใบเล็ก) ซึ่งมักบรรเลงหยอกล้อคู่กับฉาบเสมอ
         โดยฆ้องมีหน้าที่ตีจังหวะยืนพื้นกำกับจังหวะ โดยมีฉาบตีสอดสลับ หลอกล่อ ล้อทางเสียงกันไปมาตามจังหวะของวงประเภทนั้นๆ ปัจจุบันได้มีการเพิ่มจำนวนฆ้องขนาดใหญ่และเล็กลดหลั่นกันลงไปในการประสมวง ตั้งแต่ 2-9 ใบ โดยจะตีพร้อมๆ กัน เพื่อให้ได้เสียงที่ดังกระหึ่ม เช่น วงกลองมองเซิง วงกลองก้นยาว เป็นต้น โดยฆ้องที่ใช้ตีประกอบนั้นจะมีระดับเสียง เช่น ฆ้องอูย หากเทียบเป็นเสียงสากลเป็นเสียง โดต่ำ ลูกถัดมาจะเป็นเป็นเสียง ซอล ลูกถัดมาอีกเป็นเลียง โดสูง สลับกันไปอย่างนี้จนถึงฆ้องลูกเล็กสุด ประสานกันเป็นคู่ 5 หรือบางครั้งอาจจะเป็นคอร์ดเสียงอย่างสากลก็มี