หนังสือเรื่อง "วิธีการเล่นกีฬาพื้นเมืองตามประเพณีนิยมแสดงที่ท้องสนามหลวง วันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๘" เป็นผลงานการเขียนอธิบายการละเล่นโดยครูอาจารย์ในสมัยนั้นและน่าจะถือได้ว่าหนังสือเล่มนี้เป็นเอกสารรุ่นแรกที่มีการรวบรวมการละเล่นของเด็ก
วัตถุประสงค์ในการรวบรวมการละเล่น
จากในบทนำหนังสือที่เรียบเรียงโดยพระยาวิเศษศุภวัตร์ (เทศสุนทร กาญจนะศัพท์) ได้กล่าวถึง ในงานรื่นเริงปีใหม่ พ.ศ. ๒๔๗๘ ให้มีการเล่นตามประเพณี (ซึ่งท่านเจ้าคุณเรียกว่ากีฬาพื้นเมือง) ได้กลับมามีชีวิตคงคืนกลับมา โดยร้องขอไปยังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดต่างๆ เลือกสรรเอาการละเล่นต่างๆ ซึ่งเป็นประเพณีอยู่ ณ จังหวัดนั้นๆ พร้อมทั้งแจกหนังสือแนะนำวิธีการละเล่นแต่ละชนิด
ถ้าพิจารณาจากบทนำของพระยาวิเศษศุภวัตร์ ก็น่าจะเป็นไปได้ว่าในงานรื่นเริงปีก่อนหน้าไม่เคยมีการนำการละเล่นเหล่านี้มาแสดง
แม้ว่าในบทนำจะได้อ้างถึงสมาชิกผู้แทนราษฎรจังหวัดต่างๆ คัดสรรการละเล่นมาแสดง หากแต่เมื่อพิจารณาจากรายชื่อที่ปรากฏ พอที่จะสันนิษฐานได้ว่า การละเล่นที่นำมาจัดแสดงรวบรวมจากการละเล่นในเขตภาคกลางของประเทศไทยเท่านั้น ทั้งนี้เพราะไม่ปรากฏชื่อการละเล่นที่เป็นภาษาท้องถิ่นแต่ประการใด
พระยาวิเศษศุภวัตร์ นามเดิม เทศสุนทร กาญจนะศัพท์ เป็นบุตรคนสุดท้องของนายเสียง และ นางซิว กาญจนะศัพท์ เกิดเมื่อวันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๓๕ ที่ตำบลถนนบำรุงเมือง อำเภอสำราญราษฎร์ จังหวัดพระนคร ตำแหน่งสุดท้ายในชีวิตราชการคือ หัวหน้ากองกรีฑาสถานแห่งชาติ กรมพลศึกษา ท่านถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่ ๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๘๓
เราไม่สามารถที่จะตอบได้ว่าการละเล่นเหล่านี้เกิดขึ้นเมื่อใด ทั้งนี้เพราะการละเล่นส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ เป็นการเพียงการแสดงอากัปกิริยาเท่านั้น แม้ว่าบางการละเล่นจะต้องใช้อุปกรณ์แต่อุปกรณ์เหล่านั้นก็เป็นของที่สูญสลายได้ง่ายตามกาลเวลา
หลักฐานที่เก่าสุดที่กล่าวถึงการละเล่นปรากฏในบทละครนอกเรื่องมโนราห์ ครั้งกรุงเก่า ดังต่อไปนี้
เมื่อนั้น | นวลนางพระพี่ศรีจุลา |
ว่าเจ้าโฉมตรูมโนราห์ | มาเราจะเล่นกระไรดี |
เล่นให้สบายคลายทุกข์ | เล่นให้สนุกในวันนี้ |
จะเล่นให้ขันกันสักที | เล่นกันให้สนุกจริงจริง |
มาเราจะวิ่งลิงชิงเสา | ข้างโน้นนะเจ้าเป็นแดนพี่ |
ข้างนี้เป็นแดนเจ้านี้ | เล่นลิงชิงเสาเสมือนกัน |
ถ้าใครวิ่งเร็วไปข้างหน้า | ถ้าใครวิ่งช้าอยู่หลังนั้น |
เอาดอกบัวเป็นเสาเข้าชิงกัน | ขยิกไล่ผายผันกันไปมา |
เมื่อนั้น | โฉมนวลพระพี่ศรีจุล |
บอกเจ้าโฉมตรูมโนราห์ | มาเราจะเล่นปลาลงอวน |
บัวผุดสุดท้องน้องเป็นปลา | ลอยล่องท่องมาเจ้าหน้านวล |
จะขึงมือกันเป็นสายอวน | ดักท่าหน้านวลเจ้าล่องมา |
ออกหน้าที่ใครจับตัวได้ | คุมตัวเอาไว้ว่าได้ปลา |
จากหลักฐานในบทละครนอกเรื่องดังกล่าวได้กล่าวถึงการละเล่น ๒ อย่าง คือ ลิงชิงเสา และ ปลาลงอวน ในกรณีของลิงชิงเสานั้น เข้าใจว่าน่าจะตรงกับการละเล่นที่ชื่อว่า "ลิงชิงหลัก" ส่วนการละเล่นที่ชื่อ "ปลาลงอวน" ไม่ทราบว่าตรงกับการละเล่นใด
นอกจากนี้ยังมีตัวอย่างชื่อการละเล่นรวมถึงวิธีการเล่นในเอกสารต่อไปนี้
๑. ในบทพระราชนิพนธ์ละครนอกเรื่องสังข์ทอง ดังรายละเอียดต่อไปนี้
พวกเด็กเด็กหยอกเย้าเข้าฉุด | อุตลุตล้อมหลังล้อมหน้า |
แล้วชวนเล่นจ้องเตเฮฮา | โห่ร้องฉาวฉ่านี่นั้น |
อนึ่งเล่น "จ้องเต" ในที่นี้คือการละเล่นที่เรียกว่า "ต้องเต"
๒. ในหนังสือ "อักขราภิธานศรับท์" ของปรัดเล ซึ่งตีพิมพ์ในปี พ.ศ.๒๔๑๖ ดังรายละเอียดต่อไปนี้
ช่วงไชย เปนชื่อการเด็กเล่นของอย่างหนึ่ง คือเอาสิ่งใดๆ ม้วยเป็นลูกกลมๆ แล้วโยนรับกันต่อๆ ไป สะบ้า คือลูกล้อที่เด็กๆ ล้อแลยิงดีดสะบ้าต่อสะบ้าฤๅก้อนอิฐเปนต้นนั้น ชักเย่อ เปนชื่อการเล่น คือเขายึดบั้นเอวกันต่อๆ ก็ชักเย่อกัน |
การละเล่นที่ได้จัดแสดงดูเหมือนว่าจะพูดในทำนองว่าเป็นกีฬาพื้นบ้าน หากแต่จากหลักฐานจดหมายเหตุรายวันของสมเด็จพระบรมราชปิตุลาธิบดีเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศทำให้เราทราบว่า พระราชโอรสก็ทรงเล่นการละเล่นเหล่านี้เหมือนกัน ดังตัวอย่างต่อไปนี้
วันพฤหัสบดี วันที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๒๗ |
ทูลหม่อมบนรับสั่งว่าพออยู่แล้ว พูดเท่านั้นพอดี แล้วรับสั่งให้เราเล่นงูกินหางกับน้องๆ เสด็จในที่แล้ว เรามากินข้าวกับสมเด็จแม่กับเสด็จน้า ยามหนึ่งกลับมาตำหนัก นอนเล่าให้นายฟังถึงไปมาวันนี้ แล้วให้ป้าโสมอ่านพงศาวดารในรัชกาลที่หนึ่งเล่ม ๖ |
การละเล่นที่ปรากฏในหนังสือเป็นเพียงแค่การรวบรวมจากการละเล่นที่เล่นกันในภาคกลางของประเทศเท่านั้น หากแต่การละเล่นบางอย่างก็เป็นของที่เล่นกันทั่วในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และพื้นที่ใกล้เคียง ดังตัวอย่างต่อไปนี้
๑. ช่วงไชย
๒. โมรา
๓. สะบ้ารำ
๔. ไม้หึ่ง
๕. มอญซ่อนผ้า
๖. ลิงชิงหลัก
๗. ชักคะเย่อ
๘. ดันไม้
๙. ตี่จับ
๑๐. เตย
๑๑. ขี่ม้าชิงเมือง
๑.๑ มอญในพม่า มีภาษาเรียก แต่จากการสืบค้นข้อมูลไม่มีชื่อในภาษาท้องถิ่น นอกจากระบุเป็นภาษาอังกฤษว่า Throwing of Bundles (เล่นขี่หลังส่งลูกช่วง)
Throwing of Bundles ของเด็กมอญในพม่า
๑.๒ ม้งที่หมู่บ้าน Ban Na Ouane หลวงพระบาง สปป.ลาว เรียก Chaij Nees (ขี่หลังส่งม้วนผ้า ถ้าส่งพลาดคนเป็นม้าปาคนขี่)
Chaij Nees ของเด็กชาวม้ง ที่หมู่บ้าน Ban Na Ouane หลวงพระบาง สปป.ลาว
๑.๓ ม้งในไทย เรียก จุเป๊าะ ซึ่งเล่นในช่วงเทศกาลปีใหม่ (เป็นช่วงชัยแบบชายหญิงแบ่งเป็นสองฝ่าย โยนลูกช่วงรับส่งกัน)
การเล่น จุเป๊าะ ของชาวม้ง
๑.๔ กัมพูชา เรียก Chaol Chhuong เล่นกันในช่วงเทศกาลปีใหม่ของเขมร (เป็นช่วงชัยแบบชายหญิงแบ่งเป็นสองฝ่าย โยนลูกช่วงรับส่งกัน)
การเล่น Chaol Chhuong ของเด็กหนุ่มสาวกัมพูชา
๑.๕ ลาหู่ในไทย เรียก แข่ปุกสื่อบ่าดะเว (เล่นโยนผ้า ไม่มีขี่หลัง หนุ่มสาวเล่นในช่วงปีใหม่ หรือกินวอ)
๒.๑ สิงคโปร์ เรียก ดาว ๗ ดวง (ข้อมูลไม่ระบุชื่อเรียกในภาษาท้องถิ่น)
เด็กสิงคโปร์เล่น ดาว ๗ ดวง
๒.๒ ปีนัง มาเลเซีย เรียก Tuju Tin (ปากระป๋อง)
การเล่น Tuju Tin ในปีนัง มาเลเซีย
การเล่นสะบ้ามักเล่นกันในเทศกาลสงกรานต์ โดยเล่นใต้ถุนบ้าน หรือบริเวณที่มีพื้นที่โล่งกว้าง โดยมีขึ้นเพื่อเสี่ยงทายว่าในอนาคตถึงปลายฤดูกาลจะมีฝนตก น้ำท่าข้าวปลาอาหารอุดมสมบูรณ์หรือไม่ (http://goodthings4us-mizae.blogspot.com/2011/01/blog-post_6761.html)
การละเล่นเหล่านั้นมีทั่วไปทุกบ้านเมืองในสุวรรณภูมิ มีบันทึกในกฎมณเทียรบาลยุคต้นอยุธยามากกว่า ๕๐๐ ปีมาแล้วว่ามีแข่งวัวควาย, แข่งเกวียนเทียมวัวควาย, แข่งช้างชนกัน, หัวล้านชนกัน, ต่อยมวย, ตีไก่, กัดปลา, ฯลฯ รวมถึงสะบ้า, ลูกช่วง ก็มีเล่นทั่วไปในทุกชาติพันธุ์ แต่ปัจจุบันเหลืออยู่ในกลุ่มมอญ และบางกลุ่มในสิบสองพันนา (http://www.sujitwongthes.com)
๓.๑ มอญ เรียก ว่าน-ฮ้ะ-นิห์
ว่าน-ฮ้ะ-นิห์ ของมอญ
๓.๒ ชาติพันธุ์ฉิ่นในพม่า เรียก Kawi
การเล่น Kawi ของชาวฉิ่นในพม่า
๓.๓ ลาหู่ในไทย เรียก หม่ายี้สื่อต่อดะเว (ส่วนใหญ่ผู้หญิงเล่น เล่นในช่วงกินวอ)
๓.๔ ลาว เรียก Mark Ba
การเล่น Mark Ba ของลาว
๓.๕ เกาหลี เรียก โทลชิ โนริ
เด็กเกาหลีเล่น โทลชิ โนริ
๓.๖ ชาวมวง (Mường)ในเวียดนาม เรียก Đánh mảng
Đánh mảng ของชาวมวงในเวียดนาม
๓.๗ ชาวไท (ไต) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเวียดนาม เรียก Tó má lẹ
Tó má lẹ ของชาวไทในเวียดนาม
๔.๑ ปากีสถาน เรียก กิลลิ ดานดา
เด็กปากีสถานกำลังเล่น กิลลิ ดานดา
๔.๒ ชวาตะวันตก อินโดนีเซีย เรียก Gatrik (เป็นที่รู้จักกันดีของชาวซุนดา)
Gatrik ในชวาตะวันตก ของอินโดนีเซีย
๔.๓ พนมเปญ กัมพูชา เรียก Heung
การเล่น Heung ของเด็กเขมรในพนมเปญ
๔.๔ ปีนัง มาเลเซีย เรียก Konda Kondi
Konda Kondi ในปีนัง มาเลเซีย
๕.๑ เวียดนามมีการเล่น Hiding the Towel คล้ายมอญซ่อนผ้า (เป็น Đồng dao ชนิดหนึ่งคือการละเล่นเกมส์ประกอบเพลงหรือกวี)
๕.๒ หลวงพระบาง ลาว เรียก Seuangmohn
การเล่น Seuangmohn ของเด็กลาวในหลวงพระบาง
๖.๑ เนปาล เรียก สุริ กาสะ (ไม่มีหลักไม้ ใช้ชิงมุมสี่มุม)
เด็กเนปาลเล่น สุริ กาสะ
๖.๒ พนมเปญ กัมพูชา เรียก Sva Dandeum Ti (ไม่มีหลักไม้ ใช้ชิงมุมสี่มุม)
Sva Dandeum Ti ในพนมเปญ, กัมพูชา
๖.๓ ชาวคะฉิ่น พม่า มีการเล่น A game of occupying (ข้อมูลไม่บอกชื่อในภาษาถิ่น) ใช้ต้นไม้เป็นหลักสำหรับชิง
A game of occupying ของชาวคะฉิ่นในพม่า
๗.๑ อินโดนีเซีย เรียก Tarik Tambang
Tarik Tambang ของอินโดนีเซีย
๗.๒ อินเดีย เรียก Vadam Vali
Vadam Vali ของอินเดีย
๗.๓ พม่าในรัฐอาระกัน เรียกว่า ประเพณี Rahta-Swe-Bwe
ประเพณี Rahta-Swe-Bwe ในรัฐอะระกัน พม่า
๗.๔ ฟิลิปปินส์มีการละเล่นคล้ายชักคะเย่อ เรียกว่า Culliot
เด็กฟิลิปปินส์เล่น Culliot
๗.๕ เวียดนาม เรียก kéo co
kéo co ของเวียดนาม
๘.๑ เวียดนาม เรียก đẩy gậy
đẩy gậy ของเวียดนาม
๘.๒ ฟิลิปปินส์ เรียก Dinoron
Dinoron ในฟิลิปปินส์
๙.๑ พนมเปญ กัมพูชา เรียก Ou
เล่น Ou ของเด็กกัมพูชา ในพนมเปญ
๙.๒ Balik Pulau ปีนัง มาเลเซีย เรียก Tu
การเล่น Tu ใน Balik Pulau ปีนัง มาเลเซีย
๙.๓ ปีนัง มาเลเซีย เรียก Kabaddi (มีต้นกำเนิดมาจากเอเชียใต้)
Kabaddi ในปีนัง มาเลเซีย
๙.๔ อินเดีย เรียก คาบัดดี
เด็กอินเดียเล่น คาบัดดี
๙.๕ ลาว เรียก Mark Tee
Mark Tee ของลาว
๑๐.๑ ม้งที่หมู่บ้าน Ban Na Ouane หลวงพระบาง ลาว เรียก Ua Bav Loog
การเล่น Ua Bav Loog ที่หลวงพระบาง ลาว
๑๐.๒ ลาว เรียก Ba kii loun
การเล่น Ba kii loun ของลาว
๑๐.๓ ชาวคะยาห์ในพม่ามี Kayah sport คล้ายเตย (ไม่ได้บอกชื่อในภาษาถิ่นไว้)
Kayah sport ในพม่า
๑๐.๔ อินโดนีเซีย เรียก มะสะโล
๑๐.๕ มาเลเซีย เรียก เมน ทุย
เด็กมาเลเซียเล่น เมน ทุย
๑๐.๖ บังคลาเทศ เรียก ดาริอาพันธะ
๑๑.๑ อินโดนีเซีย เรียก JaRan Teji
การเล่น JaRan Teji ของอินโดนีเซีย
อนึ่งข้อจำกัดเรื่องเอกสารทางวิชาการและข้อมูลภาคสนาม จึงทำให้ไม่สามารถหาได้ว่าการละเล่นบางประเภทที่ปรากฎในหนังสือ "วิธีการเล่นกีฬาพื้นเมืองตามประเพณีนิยมแสดงที่ท้องสนามหลวง วันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๘" คือ ต้องเต เสือกินวัว ขี่ม้าส่งเมือง กาฟักไข่ วิ่งเปี้ยว เสือตกถัง อุ้มหมูเข้าเล้า ปิดตาตีหลัก ตี่ป๊าบหรือตี่วง แย้ลงรู ดึงหนืด มีปรากฏในพื้นที่นอกประเทศไทยหรือไม่
เอกสารอ้างอิง
Traditional children’s games in Southeast Asia