Read me 10 - page 53

| January-February 2012
53
โอมเล่
าว่
า ปั
จจุ
บั
นเขารั
บผิ
ดชอบดู
แลแหล่
งเรี
ยนรู้
บ้
านดิ
และวิ
ถี
พึ่
งตนเองที่
ตั้
งอยู่
ในมหาวิ
ทยาลั
ย ก่
อนหน้
านี้
โอมเคยทำ
�งาน
อาสาสมั
ครทำ
�กิ
จกรรมสั
นทนาการโครงการสร้
างสุ
ขภาวะให้
เด็
ชาวเขาในภาคเหนื
อ และอี
กโครงการที่
ทำ
�ต่
อเนื่
องเป็
นระยะเวลา 3 ปี
คื
อ โครงการ ‘กล้
าใหม่
...ใฝ่
รู้
’ สนั
บสนุ
นโดยธนาคารไทยพาณิ
ชย์
จำ
�กั
(มหาชน) ซึ่
งเขาและเพื่
อนๆ ได้
เข้
าไปทำ
�เตาเผาขยะให้
กั
บชุ
มชน
ในจั
งหวั
ดลำ
�ปางเพื่
อแก้
ปั
ญหาการจั
ดการขยะที่
พั
วพั
นบั่
นทอนคุ
ณภาพ
ชี
วิ
ตชาวบ้
าน จนวั
นนี้
โอมได้
ก้
าวมาเป็
นกำ
�ลั
งสำ
�คั
ญในกลุ่
มแกนนำ
อาสาสมั
ครที่
วิ
ทยาเขตลำ
�ปาง ทำ
�งานขั
บเคลื่
อนกิ
จกรรมที่
นั
กศึ
กษา
สนใจ ช่
วยจั
ดกระบวนการเรี
ยนรู้
ให้
ชุ
มชน ตลอดจนเพื่
อนๆ พี่
ๆ น้
องๆ
ในมหาวิ
ทยาลั
ย เช่
น การถอดบทเรี
ยนจากการทำ
�งาน หรื
อรวบรวม
อาสาสมั
ครในการทำ
�กิ
จกรรมเพื่
อชุ
มชนโดยรอบ
ข้
อดี
จากการเข้
าร่
วมโครงการ ‘กล้
าใหม่
...ใฝ่
รู้
’ หนุ่
มน้
อยรายนี้
เผยว่
า ทำ
�ให้
เขาได้
มี
โอกาสทำ
�งานกั
บชุ
มชนในชนบทเป็
นครั้
งแรก
ของชี
วิ
ต และถื
อเป็
น ‘จุ
ดเปลี่
ยน’ ครั้
งสำ
�คั
ญในชี
วิ
ตของเขาที่
ได้
ลงพื้
นที่
สำ
�รวจชุ
มชน พู
ดคุ
ยกั
บคนในท้
องที่
และได้
ทำ
�งานร่
วมกั
น การทำ
�งาน
ในลั
กษณะเช่
นนี้
เองทำ
�ให้
โอมได้
รั
บความรู้
ใหม่
ๆ จากชุ
มชนเติ
มเต็
สิ่
งที่
ได้
ศึ
กษามาแล้
วจากในห้
องเรี
ยนก่
อนหน้
านี้
สิ่
งที่
โอมคิ
ดว่
าเป็
นความสำ
�เร็
จของการทำ
�งาน หาใช่
รางวั
ลการั
นตี
หากแต่
คื
อ ‘ความรั
กกั
นฉั
นครอบครั
ว’ ที่
เกิ
ดขึ้
นในหมู่
เพื่
อนๆ
ที่
ทำ
�งานร่
วมกั
น เพราะมิ
ตรภาพถื
อ เป็
นความสุ
ขอย่
างยิ่
คนรุ่
นใหม่
อย่
าง ‘โอม’ เชื่
อว่
าต้
องใช้
‘ใจ’ ในการทำ
�งานมากกว่
การออกคำ
�สั่
ง เพราะทุ
กคนต่
างต้
องการทำ
�สิ่
งที่
สร้
างสรรค์
ขณะเดี
ยวกั
นการทำ
�งานร่
วมกั
บคนหมู่
มากก็
ทำ
�ให้
เขารู้
จั
กเรี
ยนรู้
เพื่
อเข้
าใจตั
วเองมากยิ่
งขึ้
น หากไม่
มี
การทำ
�งานเป็
นหมู่
คณะที่
ดี
โอมคิ
ดว่
าจะไม่
สามารถขั
บเคลื่
อนงานได้
มากเช่
นนี้
อี
กปั
จจั
ยหนึ่
งที่
สำ
�คั
ญต่
อความสำ
�เร็
จที่
เกิ
ดขึ้
นคื
อ ความ ‘ศรั
ทธา’
ที่
มี
ต่
อการทำ
�งาน เพราะทำ
�ให้
เขาพร้
อมจะทุ่
มเทให้
กั
บงานอย่
างเต็
มที่
และแก้
ไขปั
ญหาทุ
กอย่
างผ่
านความศรั
ทธา เกิ
ดจากศรั
ทธาที่
มี
ต่
อสิ่
งที่
ทำ
� สิ่
งที่
จะทุ่
มเทให้
โดยใช้
ความศรั
ทธาแก้
ปั
ญหาทุ
กอย่
าง
รวมถึ
ง ‘ที
มเวิ
ร์
ค’ ก็
มี
ความสำ
�คั
ญไม่
น้
อยกว่
าการขวยขวาย
รั
กเรี
ยนรู้
อยู่
เสมอก็
ช่
วยพั
ฒนาศั
กยภาพและทำ
�ให้
เข้
าใจตนเอง
มากขึ้
นเรื่
อยๆ
โอมสะท้
อนว่
า ผลจากการเรี
ยนรู้
นอกห้
องเรี
ยนนี้
ทำ
�ให้
เขามี
โอกาส
ได้
ทำ
�งานในชุ
มชนอย่
างต่
อเนื่
อง ทำ
�ให้
เขาเรี
ยนรู้
ว่
าชุ
มชนส่
วนใหญ่
นั้
มี
‘ทุ
นทางสั
งคม’ อยู่
เป็
นจำ
�นวนมาก ไม่
ว่
าจะเป็
นทุ
นทางปั
ญญา
ทุ
นวั
ฒนธรรม หรื
อทุ
นมนุ
ษย์
ซึ่
งช่
วยให้
ท้
องถิ่
นสามารถพึ่
งพาตนเอง
ได้
โดยไม่
ต้
องพึ่
งหน่
วยงานรั
ฐแต่
เพี
ยงอย่
างเดี
ยว หากมี
‘กระบวนการ’
สร้
างการมี
ส่
วนร่
วมระหว่
างคนในชุ
มชนก็
จะสามารถมองเห็
นแนวทาง
ในการจั
ดการปั
ญหาในชุ
มชนของตนเองได้
รวมทั้
งจะก่
อให้
เกิ
การพั
ฒนาที่
ยั่
งยื
น ซึ่
งเรื่
องเหล่
านี้
ล้
วนแต่
ปฏิ
วั
ติ
ความคิ
ดและความเชื่
ที่
เขาเคยมี
มาก่
อนหน้
านี้
“ก่
อนหน้
านี้
ที่
ผมเคยคิ
ดว่
าชุ
มชนต้
องเป็
นฝ่
ายรั
บอย่
างเดี
ยว
เช่
น การบริ
จาคสิ่
งของต่
างๆ เป็
นผลมาจากความคิ
ดที่
ว่
าคนเมื
อง
มี
ศั
กยภาพมากกว่
าชนบท แต่
ในความเป็
นจริ
งแล้
วคนในพื้
นที่
เองก็
มี
ความคิ
ดที่
ดี
มี
ศั
กยภาพไม่
ด้
อยไปกว่
ากั
น การให้
ความเชื่
อเหลื
อโดยที่
ผู้
รั
บไม่
ต้
องการอาจเป็
นเรื่
องเปล่
าประโยชน์
ก็
เป็
นได้
จากจุ
ดนี้
เอง
ถ้
าจะมองว่
าคนชนบทด้
อยกว่
าคนในเมื
องก็
คงหนี
ไม่
พ้
นความจริ
งที่
ว่
คนชนบทระยะหลั
งมี
ศั
กยภาพในการพึ่
งพาตนเองได้
น้
อยกว่
า”
อี
กบทเรี
ยนและประสบการณ์
สำ
�คั
ญที่
ตอกยํ้
าความจริ
งเรื่
องที่
โอม
พู
ดมานี้
ยั
งเป็
นตอนที่
ทำ
�เตาเผาขยะในชุ
มชน โอมพบว่
าภู
มิ
ปั
ญญา
ชาวบ้
านนั้
นมี
ดี
กว่
าที่
เขาเองและเพื่
อนๆ ช่
วยกั
นสื
บค้
น คิ
ดวิ
เคราะห์
และวางแผนกั
นไว้
มาก
เตาเผาที่
เกิ
ดขึ้
นนี้
จึ
งไม่
ได้
มาจากความคิ
ดของนั
กศึ
กษาอย่
าง
พวกเขาเพี
ยงอย่
างเดี
ยว แต่
มี
ความคิ
ดของคนในพื้
นที่
เป็
นหลั
เป็
นวิ
ธี
การที่
ชาวบ้
านผสมภู
มิ
ปั
ญญาท้
องถิ่
นซึ่
งเกิ
ดจากการสั่
งสม
มานานและมี
ความเหมาะสมมากกว่
าลำ
�พั
งทฤษฎี
ต่
างๆ ที่
เขาเคย
รํ่
าเรี
ยนในตำ
�ราเป็
นไหนๆ นอกจากนั้
น กระบวนการมี
ส่
วนร่
วม
ดั
งกล่
าวยั
งช่
วยให้
คนในพื้
นที่
รู้
สึ
กถึ
งความเป็
นเจ้
าของมากขึ้
นด้
วย
“แรงบั
นดาลใจในการทำ
�กิ
จกรรมเพื่
อสั
งคมของผม ส่
วนหนึ่
มาจากครอบครั
วที่
ให้
อิ
สระในการทำ
�สิ่
งต่
างๆ โดยมี
เงื่
อนไขอย่
างเดี
ยว
คื
อ ต้
องไม่
ทำ
�ให้
ผู้
อื่
นเดื
อดร้
อน ครอบครั
วมี
ส่
วนอย่
างมากในการให้
คำ
�แนะนำ
�ในการทำ
�กิ
จกรรมเพื่
อสั
งคมและชุ
มชน แล้
วอี
กส่
วนที่
มี
ความ
สำ
�คั
ญคื
อ เพื่
อนอาสาสมั
ครซึ่
งร่
วมด้
วยช่
วยกั
นทำ
�งาน รวมถึ
งคนใน
พื้
นที่
ชุ
มชนที่
เขาได้
เข้
าไปทำ
�งานด้
วย ก็
เป็
นแรงใจสำ
�คั
ญที่
ทำ
�ให้
เรา
รู้
สึ
กว่
าต้
องทำ
�ให้
พวกเขาเข้
มแข็
งขึ้
นได้
อย่
างแท้
จริ
ง” โอมกล่
าว
ทั้
งนี้
เรื่
องราวของ ‘โอม’ ถื
อเป็
นหนึ่
งตั
วอย่
างคนหนุ่
มสำ
�นึ
กใหม่
ที่
ไม่
เพี
ยงแต่
รอคอยการเรี
ยนรู้
จากในห้
องเรี
ยน แต่
ยั
งเสาะแสวงหา
การเรี
ยนรู้
ชี
วิ
ตจาก งานรั
บใช้
สั
งคม ที่
พาให้
เขาไปพบกั
บโจทย์
ปั
ญหา
ของชุ
มชน ที่
ผลสะท้
อนของมั
นยั
งทำ
�ให้
เขา ‘ได้
รั
บ’ การเติ
มเต็
มทั
กษะ
ความรู้
ประสบการณ์
ตลอดจนโลกทั
ศน์
ใหม่
ๆ ต่
อชี
วิ
ต และต่
อสั
งคม
ซึ่
งไม่
อาจหาซื้
อได้
จากที่
ไหน และเป็
นกระแสใหม่
มาแรงสำ
�หรั
การเรี
ยนรู้
ของเยาวชนไทย ซึ่
งกระทรวงศึ
กษาธิ
การได้
นำ
�มาใช้
เป็
แนวทางในการพั
ฒนาบั
ณฑิ
ตเพื่
อเป็
นพละกำ
�ลั
งสำ
�คั
ญของการพั
ฒนา
ประเทศในศตวรรษใหม่
อย่
างแท้
จริ
1...,43,44,45,46,47,48,49,50,51,52 54