Read me 15 - page 9

| November-December 2012 9
ความเชื่อเดิม นั้นคือ การค้นพบเหรียญโรมั น
ซึ่งมีรูปสลักใบหน้าของคลีโอพัตราปรากฏอยู่
จากการศึกษาพบว่ า ‘คลีโอพัตราไม่สวย’ ด้วย
ลั กษณะคางเรี ยวแหลม ริ มฝี ปากบาง
จมูกโด่งแหลมผิดส่ วน แต่ลักษณะดั งกล่าวได้
สอดคล้องกับงานเขียนในยุคคลาสสิคจำ�นวน
มากที่ พรรณาถึงคลี โอพั ตราว่าเป็นผู้ ทรง
ปั ญญา ช าญฉล า ด แล ะ ม า กบ า ร มี
ซึ่งสิ่งเหล่านี้อยู่เหนือความสวย
เทวรูป-นางอัปสร
(Khmer Style)
พ.ศ. 1090-พ.ศ. 1780
อีกหนึ่งยุคสมัยที่รุ่งเรือง คื อ อารยธรรม
ขอม ศิ ลปกรรมที่ เกี่ ยวข้ องกั บศาสนา
ได้รับอิทธิพลจากอารยธรรมอินเดีย ก่อนจะ
พัฒนามาเป็นรู ปแบบของตั วเอง ยุคสมั ย
ที่ ถือเป็นรากฐานการวางรูปลักษณ์ความงาม
ทางด้านงานศิลปกรรมอยู่ในช่ วงสมัยก่อน
เมืองพระนคร
นอกจากปราสาทหิ นที่ ถือว่ าเป็ นงาน
สถาปัตยกรรมซึ่งสะท้อนให้เห็นความเจริญ
ทางด้านความคิ ดและนวัตกรรมของคนใน
ยุ คก่ อน สิ่ งที่ มี ความสำ �คั ญและถื อเป็ น
เอกลักษณ์ ของอารยธรรมในยุคสมั ยนี้ คือ
งานประติมากรรมและภาพสลักโดยเฉพาะ
เหล่ า ‘นางอั ปสร’ ที่ถือเป็ นภาพลั กษณ์
ความงามของผู้ หญิงตามแบบฉบับเขมร สิ่งท่ี
โดดเด่นคือลั กษณะ ‘คิ้วยาวติดเป็นปีกกา’ เหล่า
สาวคิ้วหนาในยุคนี้ ถ้าไม่อยากถอนคิ้วให้ได้
รูปตามสมัย ต้องย้อนเวลาย้ายไปอยู่เขมร!
โมนา ลิซา
(Mona Lisa)
ค.ศ. 1503-ค.ศ. 1507
ถ้ ากล่าวถึ งหญิ งงามแล้ วไม่กล่ าวถึ ง
โมนา ลิซา ดูจะผิดกติกาอยู่ ผลงานจากปลาย
พู่กันของเลโอนาโดร์ ดา วินชี ได้ถ่ายทอด
ภาพสตรีผู้มีรอยยิ้มเป็ นปริศนา ความลึกลับ
ของภาพนำ �มาซึ่ งการค้นหาซึ่ งภายหลั ง
มีผู้เผยว่า ผู้หญิงในภาพ คือ ลีซา เกอราร์ดีนี
ภรรยาของขุ นนางนั กธุ รกิ จไหมผู้ มั่ งคั่ง
ชาวเมืองฟลอเรนซ์ อิตาลี
นอกจากรอยยิ้ มปริศนาอีกสิ่งหนึ่งที่ยังคง
ค้างคา คือ ‘ทำ�ไม โมนา ลิซา ไม่ มีคิ้ว?’ บ้ างว่า
ภาพนี้เป็นภาพที่ยังเขียนไม่เสร็จ บ้ างว่าการ
ไม่ มี คิ้ วเป็ นลั กษณะของหญิงงามเมื อง
ที่ ปร ะกอบอาชี พโ ส เ ภณี และแน่ นอน
ที่ จ ะ มี ผู้ ตี ค ว า ม ว่ า ก า ร ไ ม่ มี คิ้ ว เ ป็ น
คว ามงามตามสมั ย . . . หาก เ ป็ น ไ ป ไ ด้
สาวคิ้ วบางทั้ งหลายควรนั่ งไทม์แมชชี น
ย้อนเวลาไปยุคนี้ เพื่อไปพิสูจน์ดู ให้รู้ แน่ว่า
ผู้หญิงในยุคนี้นิยมโกนคิ้วทิ้ งจริงหรื อไม่?
มาริลิน มอนโร
(Marilyn Monroe)
ค.ศ.1926-1962
ผู้ สร้างภาพลักษณ์ความสวยเซ็กซีตาม
แบบฉบับอเมริกัน เมื่อตอนอายุ 12 ปี เธอค้น
พบว่ าตัวเองเป็ นคนสวย เมื่อครั้ งที่เธอสวม
สเวตเตอร์พร้อมกับทาลิปสติ กเป็นครั้งแรก
ไปโรงเรี ยน เธอเล่าว่ าเมื่อเธอเดิ นเข้าไป
ในโรงเรี ยน นั กเรี ยนชายต่ างก็มองเธอ
เป็นตาเดียว เรียกว่าสวยชนิดเหลียวหลัง พอมี
อายุ ได้ 16 เธอจึงเริ่มอาชีพนางแบบและได้
แสดงภาพยนตร์ในเวลาต่ อมา
ไม่ มีใครที่จะปฏิ เสธ ‘ไฝเสน่ห์’ ที่มุ มปาก
ของมาริ ลิ น นอกจากโครงหน้ าที่ได้ รูป
ประกอบกับสายตาที่ เย้ายวน ริมฝีปากเต็มอิ่ม
รู ปกระจั บที่ได้ รับการประดั บด้วยไฝเสน่ห์
ส่ ง ผล ใ ห้เ ธอผู้ นี้ มี แ ร ง ดึ ง ดู ดอย่ า งน่ า
ประหลาด ในยุ คนั้นหากใครอยากสวยแบบ
มาริลิ นถ้าไม่ มีไฝก็ ต้องหยิบดิ นสอเขี ยนคิ้ว
มาแต้มไฝที่มุมปากตามอย่างเธอ ...หากสาว
คนไหนกำ�ลังคิดจะไปจี้ ไฝลบจุดด่างดำ�ออก
จากใบหน้า อาจจะต้ องตัดสินใจเสียใหม่
ทวิกกี้
(Twiggy)
ค.ศ.1949-ปัจจุบัน
นางแบบสัญชาติอังกฤษ ผู้ เริ่มเดินเข้าสู่
วงการแฟชันในปี 1966 และเป็นต้ นกำ�เนิด
แฟชันสไตล์ ‘Androgyny’ (กึ่งหญิงกึ่งชาย)
จากเดิมที่วงการแฟชั นนางแบบต้องมีส่วน
เว้าส่วนโค้งและมีเนื้อหนังมากกว่าในปัจจุบัน
หลังจากที่ทวิกกี้ ก้าวเข้าสู่วงการ ค่านิยมของ
ค ว า ม ส ว ย บน แ ค ต ว อ ล์ ก ก็ เ ปลี่ ย น ไ ป
ด้วยรูปร่างที่ ผอมบางถึงขนาด ‘ผอมแห้ง’
แต่กลับได้รับความนิยม อาจเป็ นเพราะความ
แปลกหรือหน้าตาท่าทางของทวิกกี้มี สเน่ห์
ในแบบเฉพาะตัว
จากยุคนั้นจนถึ งยุคนี้ สังคมยั งคงยกให้
ภาพลั กษณ์ของนางแบบเป็นต้ นแบบของ
ความสวย ความผอมแห้งที่ถือว่าสวยยังคง
มีปรากฏให้ เห็น ถึงแม้ภายหลั งจะมีเหล่ า
นางแบบเป็นโรค anorexia ขาดสารอาหาร
จนหนังหุ้ มกระดูก จนเกิดการรณรงค์ ให้
นางแบบมี รู ปร่ างได้ สั ดส่ วนและต้องมี
สุขภาพดี จากความผอมแห้งก็ ได้เปลี่ยนแปลง
ไปตามกระแสปัจจุบั น
แต่ ถึ งอย่ างไรเราก็เลื อกเกิดกันไม่ ได้
แล้วจะไปรู้ได้อย่างไรว่ายุ คไหนจะมีค่านิ ยม
ความสวยแบบไหน แล้วจะบังคับให้ ตัวเอง
เกิดตามเวลานั้ นๆ ได้อย่ างไร แต่ถ้าหาก
ยังเกิ ดความคิ ดว่ าตัวเองเป็นคนไม่ สวย
แล ะ ยั ง อย า กจ ะ เ ป็ นคนสวยอยู่ ล่ ะ ก็
อย่าเพิ่ งหมดหวังไป เรายังมี ‘ทางเลือก’
รอคุณอยู่...