Read me 30 - page 28

เห็นว่ าตอนนี้ คุณเป็นกรรมการทั้ งในประเทศและต่าง
ประเทศด้วย อยากให้พูดถึงความแตกต่างของ B-Boy
บ้านเรากับต่างประเทศ
( 6 )
ยกตัวอย่ างประเทศเกาหลี ที่นู ่นทีมไหนดังคือ
ดังเปรี้ยงไปเลย เกาหลี เป็นประเทศที่เต้นเก่งนะ ด้วย
อากาศแล้วด้วยอาหาร ตอนไปถึงรู้ว่ามันส� ำคัญ มันท�ำให้
มีแรง ข้ าวมันๆ น�้ำซุปร้อนๆ ตัวเราไปอาทิ ตย์เดียวยั ง
รู้สึกได้เลยอากาศมันสบาย สามารถซ้อมได้เรื่อยๆ แล้ว
บ้านเมืองเขาก็สนับสนุนเป็ นอย่างดี ที มดังๆ ก็ จะมีสปอน
เซอร์ซัพพอร์ต อย่ างไปเจอช็อปขายของก็มีจอใหญ่ๆ คอย
ฉายให้คนที่สนใจได้ไปเลย ไม่ จ�ำเป็นต้องดาราก็มีรู ปแปะ
อยู่ตรงนู้ นตรงนี้ ตามที่เขาสนับสนุนคุณ มั นเลยดี ท�ำให้
เด็กๆ หน้ าใหม่เห็ นแล้วมีแรงบันดาลใจนะ ฝั่งลาวตอนนี้
ก็เก่ง ตอนผมเป็นกรรมการที่ขอนแก่น คนลาวก็มาเยอะ
นิสัยดีมาก คนไทยเราชอบไปแขวะเค้า พอเจอเข้าจริงก็
พูดไม่ออก เพราะเขาเก่งจริ งๆ
แต่ก่อน Puma ก็เคยสนับสนุนพวกผมนะ ช่วงปี
2004-2005 แต่ยุคนี้มั นอาจไม่ใช่ยุคของ B-Boy แต่กับ
เมืองนอกมันไม่ใช่นะ เมืองนอกอะไรที่เจ๋งอยู่แล้วมันคือ
ความขลัง บ้านเราอะไรที่เข้ ามา เรามองเป็นแค่ กระแส
พอผ่านไปนิดหน่อยกลายเป็นว่าไม่ฮิตแล้ว พวกที่ท�ำอยู่
เรื่อยๆ พอเก่งขึ้นก็ ไม่ได้ รับการเหลียวแลในที่ สุด
ตั้งกลุ่มมา 15 ปี คิ ดว่ายุคไหนคือยุคเฟื่องฟูที่สุดของ
B-Boy ในบ้านเรา
( 7 )
ช่วงประมาณปี 2005 แต่ถ้าพูดตรงๆ คนเต้นตอน
นี้ก็ถือว่าเยอะกว่านะ แต่ละที มมีเด็กใหม่ๆ มาตลอด ข้อ
เสียคื อบ้านเราความกระตือรือร้นน้อยไปหน่อย บางคน
ฝีมือไประดับโลกได้ บางคนเก่งมากๆ ถ้าเป็นเมืองนอก
ป่านนี้คือดังไปแล้ว แต่ตอนนี้อยู่ได้แค่ในเมื องไทย รู้จัก
กันอยู่แต่ในแวดวง มันไม่เหมือนฟุตบอล ที่ถ้าเตะเก่งก็
จะมีคนสนับสนุน
28