Read me 4 - page 28

28
สภาพภูมิอากาศของโลกในระยะหลั ง เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ รุนแรงขึ้นและบ่อยครั้งกว่าเดิม ฤดู ฝนที่ผ่าน
มาประเทศไทยเองก็ส่งผลให้เกิดภัยพิบั ติน้ำท่วมขยายวงกว้าง บ้านเรือนและพื้นที่ การเกษตรจมน้ำนานนับเดือน สร้าง
ความเสียหายอย่างมหาศาล
ส่วนทั่ วโลกก็ต้องเผชิญกั บการเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศ เช่น ปี พ.ศ. 2546 เกิดคลื่นความร้อนรุนแรงที่สุด
ในรอบ 150 ปี ส่งผลให้ผู้คนในแถบยุโรปเสียชีวิตกว่า 40,000 ราย
ปี พ.ศ. 2547 อุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นส่งผลให้แผ่ นน้ำแข็งใต้ดินเริ่มละลาย แหล่งน้ำจืดสำคัญของผู้คนหลายล้านชีวิตใน
เอเชียอย่างธารน้ำแข็งบนเทื อกเขาหิมาลัย กำลังละลายอย่างรวดเร็ ว ดาวเทียมขององค์การนาซ่าพบว่าน้ำแข็งที่ขั้วโลกใต้ละลาย
กลายเป็นน้ำถึง 31 พันล้านตันต่อปี ซึ่งส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของสัตว์ที่อาศั ยอยู่ในแถบขั้วโลก
ปี พ.ศ. 2548 เมืองมุมไบ ประเทศอินเดี ยมีน้ำท่วมสูงถึง 2 เมตร ทำให้ มีผู้เสียชีวิตนับพั นราย
ภายในสิ้นศตวรรษที่ 21 นี้ อุ ณหภูมิเฉลี่ยผิวโลกจะเพิ่มขึ้น 1.1 - 6.4 องศาเซลเซียส ซึ่งอาจก่อให้เกิดการพังทลาย
ของระบบนิเวศและการล่มสลายของสังคมมนุษย์ หากอุ ณหภูมิเฉลี่ยผิวโลกเพิ่ มขึ้นเกิน 2 องศาเซลเซียส พื้นน้ ำแข็ง
กรีนแลนด์ (Greenland Ice Sheet) จะละลาย ส่งผลให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกเพิ่มขึ้นถึง 7 เมตร เมืองใหญ่ตามชายฝั่ง
เช่น ลอนดอน นิวยอร์ก บังกลาเทศกว่าครึ่งประเทศ หรื อแม้แต่ กรุงเทพฯ จะต้องจมอยู่ใต้ น้ำ
แน่นอนว่าในอนาคตชายฝั่งทะเลของโลกจะแตกต่างไปจากที่เราเห็นในปั จจุบันอย่างมาก แต่สิ่งที่ไม่
แน่นอนคือ เหตุการณ์ ดังกล่ าวจะเกิดขึ้นเมื่อใด นั กธารน้ำแข็งวิทยาส่วนใหญ่ เชื่อกั นว่ากว่าพื้ นน้ำแข็ง
กรีนแลนด์จะละลายจนหมดต้ องใช้เวลาหลายศตวรรษ แต่สภาวะของสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป
อย่างมากเช่นนี้...อะไรๆ ก็อาจไม่แน่นอน
contiNEW
to Worse or Better Environment?
สิ่งแวดล้อม...เลือกได้