Read me 8 - page 11

เซโนฟอน (Xenophon) ชายผู้
ยํ่
าเท้
าเดิ
นในนครเอเธนส์
ช่
วงปี
426-355 ก่
อนคริ
สตกาล เขาคื
อหนึ่
งในนั
กคิ
ดกรี
กโบราณผู้
เคยสนทนา
กั
บทั้
งเพลโตและโสเครตี
ส และได้
ซึ
มซั
บนำ
�ความรู้
ไม่
เฉพาะเพี
ยง
ศาสตร์
ปรั
ชญาอั
นลึ
กซึ้
งเท่
านั้
น หากแต่
ยั
งมี
แนวคิ
ดที่
น่
าสนใจเกี่
ยวกั
เศรษฐกิ
จของครั
วเรื
อน สายตาอั
นเฉี
ยบคมของเขามองเห็
นชั
ดเจนว่
หากเราทุ
กคนเข้
าใจการจั
ดการเกี่
ยวกั
บทรั
พย์
สิ
นและความเป็
นอยู่
ของครอบครั
ว ก็
จะสามารถก่
อเกิ
ดรากฐานสำ
�คั
ญ อั
นจะทำ
�ให้
บ้
านเมื
อง
มี
เสถี
ยรภาพและความแข็
งแกร่
งได้
ด้
วยเหตุ
นี้
ในวั
นหนึ่
ง เซโนฟอนจึ
งตั
ดสิ
นใจเริ่
มต้
นจั
บปากกาขนนก
ขี
ดเขี
ยนแนวคิ
ดของตนบนหน้
ากระดาษ จนในที่
สุ
ดหนั
งสื
อชื่
Oeconomicus
ก็
ถื
อกำ
�เนิ
ดขึ้
น และได้
กลายเป็
นหนั
งสื
อเศรษฐศาสตร์
เล่
มแรกของโลกตะวั
นตก
ข้
อเขี
ยนของเซโนฟอนเริ่
มต้
นด้
วยการตั้
งคำ
�ถามและหาคำ
�ตอบ ตั้
งแต่
สิ่
งที่
พบเห็
นในชี
วิ
ตประจำ
�วั
นไปจนถึ
งคำ
�ถามในรู
ปแบบเชิ
งนามธรรม
เกี่
ยวกั
บเศรษฐกิ
จ หนึ่
งในนั้
นคื
อการให้
คำ
�นิ
ยามเกี่
ยวกั
บคำ
�ว่
า ‘ทรั
พย์
อย่
างเฉพาะเจาะจงขึ้
นเป็
นคนแรก โดยยํ้
าว่
า “สิ่
งที่
เป็
นทรั
พย์
ไม่
ได้
หมายถึ
งทุ
กสิ่
งทุ
กอย่
างที่
เรามี
เพราะสิ่
งที่
เรามี
และคิ
ดว่
ามั
นเป็
นทรั
พย์
หากไม่
ก่
อให้
เกิ
ดประโยชน์
ก็
หาใช่
ทรั
พย์
ไม่
เช่
น สมมติ
ว่
าชายคนหนึ่
ซื้
อม้
ามาตั
วหนึ่
ง แต่
ขี่
ไม่
เป็
น ตกม้
าบาดเจ็
บอยู่
ตลอดเวลา การมี
ม้
ยั
งถื
อว่
าเป็
นทรั
พย์
สิ
นของเขาอยู่
หรื
อ” จากตั
วอย่
างนี้
เห็
นได้
ว่
า ม้
าย่
อม
ไม่
ใช่
ทรั
พย์
สำ
�หรั
บคนไม่
รู้
จั
กใช้
ประโยชน์
จากการมี
มั
แล้
วถ้
าเช่
นนั้
น เราจะแก้
ไขปั
ญหาจากสิ่
งที่
เราไม่
สามารถใช้
ประโยชน์
ได้
อย่
างไร
หน้
ากระดาษถั
ดไป เซโนฟอนจึ
งได้
เอ่
ยถึ
งเรื่
องของการขาย โดยระบุ
ว่
า “สำ
�หรั
บคนที่
ใช้
อะไรไม่
เป็
น อย่
างน้
อยถ้
ามั
นเป็
นสิ่
งที่
สามารถนำ
ไปขายได้
ก็
น่
าจะยั
งคงเป็
นประโยชน์
อยู่
ดี
” ด้
วยเหตุ
นี้
ไม่
ว่
าของอะไร
ก็
ตามที่
แต่
ละคนมี
อยู่
ย่
อมเป็
นประโยชน์
เสมอ หากพยายามขายมั
หรื
อทำ
�ให้
มั
นเป็
นสิ่
งที่
ต้
องการในสั
งคมขึ้
นมา ถ้
ากล่
าวในแบบฉบั
บของ
ศตวรรษนี้
ก็
คื
อ ‘การแปลงสิ
นทรั
พย์
ให้
เป็
นทุ
น’ นั่
นเอง แต่
เซโนฟอน
ก็
ไม่
ลื
มที่
จะยํ้
าว่
า “ไม่
ใช่
ทุ
กคนที่
จะขายของเหล่
านั้
นได้
ดั
งนั้
นจึ
งจำ
�เป็
ต้
องมี
ความรู้
ในการขายควบคู่
กั
นไปด้
วย”
แล้
วรู้
หรื
อไม่
ว่
า อะไรคื
อสิ่
งที่
ปรารถนาร่
วมกั
นสำ
�หรั
บคนทุ
กคน
ในสั
งคม ราวกั
บได้
ยิ
นเสี
ยงเซโนฟอนเอ่
ยถามในห้
องเรี
ยนวิ
ชา
เศรษฐศาสตร์
‘เงิ
น’ อาจารย์
นั
กปรั
ชญาเฉลยถ้
อยคำ
� “เพราะด้
วยอานุ
ภาพของเงิ
นี่
เอง ที่
ทำ
�ให้
เกิ
ดกระบวนการแปลงสิ่
งที่
ไม่
ได้
มี
ไว้
ขายให้
กลายเป็
นสิ
นทรั
พย์
เพื่
อให้
ได้
เงิ
นกลั
บมา เงิ
นจึ
งได้
กลายเป็
นทรั
พย์
สิ
นที่
เป็
นทุ
นสำ
�คั
ญ และ
เป็
นสั
ญลั
กษณ์
แห่
งความมั่
งคั่
ง ที่
สำ
�คั
ญเงิ
นจะต้
องถู
กเก็
บไว้
ห่
างๆ
คนที่
ไม่
รู้
จั
กใช้
มั
น เพราะมิ
เช่
นนั้
นจะถื
อเป็
นสิ่
งที่
เปล่
าประโยชน์
ข้
อถกเถี
ยงเกี่
ยวกั
บศั
พท์
นิ
ยามทางเศรษฐศาสตร์
ในหนั
งสื
อเล่
มนี้
อี
กหลายพั
นปี
ต่
อมาได้
ผิ
ดเพี้
ยนเป็
นคำ
�ว่
า Economic ซึ่
งล้
วนแล้
วแต่
มี
ความสำ
�คั
ญต่
อการกำ
�หนดปรั
ชญาด้
านเศรษฐศาสตร์
นั
บตั้
งแต่
กรี
กโบราณไปจนถึ
งภู
มิ
ปั
ญญาเศรษฐศาสตร์
สมั
ยใหม่
กระทั่
งเป็
แรงบั
นดาลใจให้
บุ
คคลอื่
นอี
กมากมาย ไม่
ว่
าจะเป็
น อดั
ม สมิ
ธ บิ
ดา
แห่
งเศรษฐศาสตร์
และ มาร์
กซ์
เจ้
าของลั
ทธิ
อั
นเลื่
องชื่
อในศตวรรษที่
18
และยั
งคงส่
งผลต่
อระบบความคิ
ดให้
กั
บนั
กเศรษฐศาสตร์
รุ่
นหลั
งจนถึ
ปั
จจุ
บั
โดยเฉพาะอย่
างยิ่
ง ในยุ
คสมั
ยของเศรษฐกิ
จแบบทุ
นนิ
ยม ที่
เงิ
ดู
ราวกั
บเป็
นพระเจ้
าของทุ
กสรรพสิ่
ง ใครหลายคนอาจไม่
เคยได้
ตั้
คำ
�ถามกั
บตั
วเองว่
า สิ
นทรั
พย์
ที่
เรามี
ในครอบครองนั้
นเป็
นประโยชน์
กั
เรามากน้
อยเพี
ยงไร
คล้
ายจะได้
ยิ
นเสี
ยงเปรยของเซโนฟอนเบาๆ ว่
า “คนบางคนใช้
เงิ
มากในการสร้
างบ้
านที่
ใหญ่
โตหรู
หราอย่
างไร้
ประโยชน์
บางคนสร้
าง
บ้
านที่
สมบู
รณ์
ในทุ
กๆ อย่
าง แต่
ใช้
เงิ
นน้
อยกว่
า เช่
นเดี
ยวกั
นนั้
นคน
บางคนมี
ของมี
ค่
ามากมาย แต่
ใช้
มั
นไม่
ได้
ตามต้
องการ”
ด้
วยคำ
�อธิ
บายเหล่
านี้
เห็
นได้
ชั
ดว่
าเซโนฟอนยั
งเป็
นหนึ่
งในบุ
คคล
ผู้
ตระหนั
กและเห็
นความสำ
�คั
ญของแนวคิ
ดด้
าน ‘เศรษฐกิ
จพอเพี
ยง’
ที่
แม้
เวลาจะผ่
านพ้
นไปกี่
พั
นปี
ก็
ยั
งคงสามารถนำ
�มาใช้
ได้
จริ
แม้
ชื่
อของนั
กปรั
ชญาชาวกรี
กผู้
นี้
จะถู
กลบเลื
อนไปตามกาลเวลา
ทว่
าหลั
กความคิ
ดของเขายั
งคงมี
คุ
ณค่
า และสามารถสะท้
อน
ความหมายอั
นยิ่
งใหญ่
อย่
างชั
ดเจนว่
า “ความรู้
ใดจะเป็
นปรั
ชญา
เศรษฐศาสตร์
ที่
แท้
จริ
งได้
ย่
อมต้
องนำ
�ผู้
คนไปสู่
ความเป็
นเสรี
ชนด้
วยการ
เป็
นนายของตั
วเอง และรู้
จั
กทำ
�งานสร้
างประโยชน์
จากผื
นแผ่
นดิ
ซึ่
งจะให้
คุ
ณอเนกอนั
นต์
แก่
มนุ
ษยชาติ
และในวั
นนี้
เซโนฟอนก็
ได้
พิ
สู
จน์
ถ้
อยคำ
�ดั
งกล่
าว ด้
วยการเป็
ผู้
สร้
างประโยชน์
ด้
านเศรษฐศาสตร์
ให้
แก่
มนุ
ษยชาติ
นั่
นเอง
หลายคนคุ้
นเคยกั
บคำ
�ว่
า ‘เศรษฐศาสตร์
แต่
คงมี
เพี
ยงบางคนเท่
านั้
นที่
จะเคยคุ้
นกั
บคำ
�ว่
า ‘เซโนฟอน’
11
Read Me 8
*อ้
างอิ
/ Wikipedia
1...,2,3,4,5,6,7,8,9,10 12,13,14,15,16,17,18,19,20,21,...40