Read me 8 - page 7

ประวั
ติ
ของพระมหาวี
ระนั้
นกล่
าวไว้
หลายแหล่
งซึ่
งมี
ทั้
งตรงและ
ไม่
ตรงกั
น โดยประมาณว่
าพระองค์
ประสู
ติ
ก่
อนพระพุ
ทธเจ้
า 56 ปี
ส่
วนปี
ที่
ดั
บสั
งขารนั้
นประมาณว่
าทรงดั
บสั
งขารเมื่
อพระพุ
ทธเจ้
ามี
พระชนมายุ
ได้
16 พรรษา พระองค์
ถื
อกำ
�เนิ
ดในตระกู
ลกษั
ตริ
ย์
เมื
อง
เวสาลี
นามว่
า เจ้
าชายวรรธมาน หรื
อ วรรธมานะ ทรงได้
รั
บคำ
�ทำ
�นาย
ในวั
นประสู
ติ
จากพระฤๅษี
ว่
า “หากพระกุ
มารอยู่
ครองราชย์
จะได้
เป็
พระมหาจั
กรพรรดิ
แต่
หากออกผนวชจั
กได้
เป็
นศาสดาผู้
ยิ่
งใหญ่
ต่
อมาเมื่
อพระองค์
เจริ
ญวั
ยขึ้
น ทรงกระทำ
�วี
รกรรมขณะที่
เล่
นอยู่
กั
สหายในวั
ง ได้
มี
ช้
างตกมั
นเชื
อกหนึ่
งหลุ
ดออกจากโรงมาวิ่
งอาละวาด
ในอุ
ทยาน เหล่
าเสนาอำ
�มาตย์
ในที่
นั้
นหรื
อแม้
กระทั่
งคนเลี้
ยงช้
างเอง
ต่
างก็
แตกตื่
นตกใจไม่
มี
ใครกล้
าเข้
าใกล้
ช้
าง แต่
เจ้
าชายวรรธมาน
ได้
เดิ
นตรงเข้
าไปหาช้
างและกล่
อมช้
างให้
กลั
บไปยั
งโรงช้
างได้
ตามเดิ
พระองค์
จึ
งได้
รั
บฉายานามว่
าเป็
น ‘มหาวี
ระ’ แปลว่
า ผู้
กล้
าหาญมาก
เมื่
อเจ้
าชายวรรธมานมี
พระชนมายุ
ได้
12 พรรษา ทรงได้
รั
การศึ
กษาด้
านศาสนาจากพราหมณาจารย์
แม้
พระองค์
จะทรงสนพระทั
ในความรู้
แขนงต่
างๆ ของศาสนาพราหมณ์
เช่
น การบำ
�เพ็
ญตบะ การ
ฝึ
กจิ
ตใจ แต่
กั
บหลั
กการที่
สำ
�คั
ญอย่
างเรื่
องชนชั้
นวรรณะ โดยเฉพาะการ
กล่
าวว่
าวรรณะพราหมณ์
ประเสริ
ฐที่
สุ
ด พระองค์
กลั
บเห็
นว่
าเป็
นหลั
การที่
ผิ
พระองค์
ถู
กเลี้
ยงให้
หมกมุ่
นอยู่
ในกามสุ
ขเท่
าที่
เจ้
าชายคนหนึ่
งจะมี
ได้
เพราะพระบิ
ดาทรงหวาดกลั
วว่
าพระองค์
จะเกิ
ดเบื่
อหน่
ายในชี
วิ
ตจนคิ
ออกบวชตามคำ
�ทำ
�นายของพระฤๅษี
แต่
การหมกมุ่
นอยู่
ในความสุ
ขกลั
ทำ
�ให้
เจ้
าชายวรรธมานเกิ
ดความเบื่
อหน่
ายในชี
วิ
ตเร็
วขึ้
น จนกระทั่
พระองค์
พระชนมายุ
ได้
28 พรรษา จึ
งทรงตั
ดสิ
นใจละทิ้
งราชสมบั
ติ
สละพระชายาและพระธิ
ดาเพื่
อออกผนวชเป็
นนั
กพรต ทรงบำ
�เพ็
ญตบะ
ทรมานกายอยู่
นานถึ
ง 12 ปี
จึ
งได้
บรรลุ
ความรู้
ขั้
นสู
งสุ
ดที่
เรี
ยกว่
า ไกวั
ท่
านจึ
งได้
นามว่
า ชิ
นะ หมายถึ
ง ผู้
ชนะ คื
อชนะในกิ
เลสและความ
ปรารถนาดิ้
นรนทุ
กประการ
เมื่
อพระมหาวี
ระทรงบรรลุ
ไกวั
ลแล้
ว จึ
งออกประกาศเผยแผ่
ศาสนา
ใหม่
ที่
เรี
ยกตามองค์
ศาสดาว่
า ศาสนาเชน ซึ่
งปฏิ
เสธการมี
อยู่
ของ
พระเจ้
าและความถู
กต้
องของคั
มภี
ร์
พระเวท เพราะเหตุ
ที่
พระองค์
ทรง
บรรลุ
ธรรมด้
วยตนเอง จึ
งทรงต่
อต้
านการสวดอ้
อนวอนเทวดาของ
ชาวอิ
นเดี
ย โดยตรั
สว่
า “ดู
ก่
อนท่
านทั้
งหลาย ตั
วท่
านเท่
านั้
นที่
เป็
นสหาย
ของท่
าน ไฉนจึ
งจะตะเกี
ยกตะกายหาเพื่
อนเป็
นที่
พึ่
งพ้
นจากตั
วท่
าน
ไปเล่
า” นอกจากจะทรงปฏิ
เสธพระเจ้
าแล้
ว พระองค์
ยั
งทรงล้
มล้
าง
ความเชื่
อเรื่
องวรรณะ ทรงเชื่
อว่
าทุ
กคนเกิ
ดมาเสมอภาคกั
นในการ
บรรลุ
ธรรมสู
งสุ
พระมหาวี
ระทรงใช้
เวลาในการสั่
งสอนสาวกไปตามเมื
องต่
างๆ
ของประเทศอิ
นเดี
ยเป็
นเวลาประมาณ 30 ปี
และทรงดั
บสั
งขารเมื่
อมี
พระชนมายุ
ได้
72 พรรษา ที่
เมื
องปาวา หรื
อสาธารณรั
ฐมั
ลละ
ซึ่
งถื
อเป็
นสั
งเวชนี
ยสถานสำ
�หรั
บศาสนิ
กเชนทุ
กคน
หลั
กการของศาสนาเชนนั
บว่
าใกล้
เคี
ยงกั
บศาสนาพุ
ทธมากมาย
หลายประการ อาทิ
เป็
นศาสนาแบบนาสติ
กะ (Heterodox) ที่
ปฏิ
เสธ
การมี
อยู่
ของพระเจ้
าเหมื
อนกั
น ปฏิ
เสธพระเวทและระบบวรรณะ
เหมื
อนกั
น เชื่
อเรื่
องการบำ
�เพ็
ญจิ
ตและสมาธิ
เพื่
อบรรลุ
ธรรมขั้
นสู
งสุ
เช่
นเดี
ยวกั
น ต่
างกั
นที่
หลั
กการปฏิ
บั
ติ
ของศาสนาเชนนั้
นค่
อนข้
าง
เข้
มงวดกว่
าศาสนาพุ
ทธมาก นั
กบวชในศาสนาเชนต้
องบำ
�เพ็
ทุ
กรกิ
ริ
ยาอย่
างเคร่
งเครี
ยดไม่
ลดละ เพื่
อทำ
�ลายความปรารถนาทุ
กอย่
าง
ใ ห้
สิ้
น ไ ป แ ล ะห้
ามฆ่
า สั
ต ว์
ตั
ดชี
วิ
ต ร วมถึ
ง ต้
น ไ ม้
ตลอดจน
สั
ตว์
เล็
กๆ นั
กบวชบางรู
ปเคร่
งมากๆ จึ
งมั
กจะมี
ผ้
าขาวชิ้
นเล็
กๆ
ปิ
ดจมู
กและปากด้
วยเกรงว่
าจะหายใจเอาสั
ตว์
เล็
กๆ เข้
าไป
ในปั
จจุ
บั
นศาสนาเชนมี
ผู้
นั
บถื
ออยู่
ประมาณ 10 ล้
านคน ในบริ
เวณ
รอบนอกของอิ
นเดี
ยทั้
งทางเหนื
อและทางใต้
ทางภาคตะวั
นตกเฉี
ยง-
เหนื
อในราชปุ
ตนะ แคว้
นปั
ญจาบทางตะวั
นออก แคว้
นคุ
ชราตใน
ตะวั
นตก นอกจากนั้
นมี
กระจั
ดกระจายอยู่
ทั่
วไปในอิ
นเดี
ยภาคเหนื
และภาคกลาง
สาเหตุ
ที่
ศาสนาเชนไม่
ได้
รั
บความนิ
ยมนั
กเป็
นเพราะความเคร่
งครั
ในวั
ตรปฏิ
บั
ติ
หลั
กการที่
มี
บั
นทึ
กเป็
นคั
มภี
ร์
ไม่
ค่
อยได้
รั
บการเผยแพร่
มากนั
ก และการไม่
มี
พระสาวกผู้
เฉลี
ยวฉลาดมากพอเหมื
อนใน
ศาสนาพุ
ทธ จึ
งทำ
�ให้
มี
ผู้
นั
บถื
อศาสนาเชนจำ
�กั
ดอยู่
เฉพาะในประเทศ
อิ
นเดี
ยเท่
านั้
น และหลั
กธรรมของพระมหาวี
ระเองก็
ถู
กพระสาวก
ในรุ่
นหลั
งๆ บิ
ดเบื
อนจนกระทั่
งยกย่
องพระองค์
ขึ้
นเป็
นเทพเจ้
า ซึ่
งเป็
เรื่
องที่
น่
าเศร้
าสำ
�หรั
บพระองค์
ผู้
ทรงปฏิ
เสธการมี
อยู่
ของพระเจ้
าตลอด
พระชนม์
ชี
พ อย่
างไรก็
ตาม หลั
กธรรมคำ
�สอนที่
สำ
�คั
ญของพระองค์
นั้
ยั
งคงสื
บทอดมาจนถึ
งปั
จจุ
บั
น และถื
อเป็
นหลั
กปรั
ชญาอิ
นเดี
ยที่
สำ
�คั
ที่
สุ
ดแขนงหนึ่
งที่
ผู้
สนใจในปรั
ชญาตะวั
นออกจะต้
องศึ
กษา
นั
บตั้
งแต่
ศาสนาพราหมณ์
ได้
สถาปนาขึ้
นอย่
างมั่
นคงในสั
งคมอิ
นเดี
ย ระบบวรรณะ คั
มภี
ร์
พระเวท
และเทพเจ้
าองค์
ต่
างๆ ได้
กลายเป็
นสิ่
งที่
กำ
�หนดชะตาชี
วิ
ตคนอิ
นเดี
ยมานานหลายร้
อยปี
คนอิ
นเดี
เชื่
อว่
า เทพเจ้
าเท่
านั้
นที่
จะบั
นดาลสุ
ขให้
ตนได้
และทุ
กตั
วอั
กษรในคั
มภี
ร์
พระเวทคื
อสั
จธรรมสู
งสุ
ด กระทั่
มี
ผู้
หนึ่
งลุ
กขึ้
นมาประกาศศาสนาเชน หรื
อ ไชนะ ที่
ปฏิ
เสธเทวดาและความสมบู
รณ์
ของพระเวทขึ้
เป็
นครั้
งแรกในโลก คื
อองค์
ศาสดานามว่
า พระมหาวี
ระ (Lord Mahavir)
7
Read Me 8
*อ้
างอิ
หลั
กคำ
�สอนของศาสนาเชนในคั
มภี
ร์
พุ
ทธศาสนาฝ่
ายเถรวาท,
กวี
ศิ
ริ
ธรรม /
สิ
บเอ็
ดศาสนาของโลก,
พล อ.ต. ประที
ป สาวาโย /
ความคิ
ดสำ
�คั
ญในปรั
ชญา
อิ
นเดี
ย,
ไพฑู
รย์
พั
ฒน์
ใหญ่
ยิ่
ง /
ความสั
มพั
นธ์
ระหว่
างศาสนาพราหมณ์
พุ
ทธ
และชิ
นในแง่
ประวั
ติ
ศาสตร์
,
เสถี
ยรโกเศศ /
The Religions of India,
Auguste Barth
1,2,3,4,5,6 8,9,10,11,12,13,14,15,16,17,...40