Read me 10 - page 38

| Read Me 10 38
อยากให้นิ ยามถึงคนรุ่นเดียวกั นกับตั วเอง
อรสม: พี่คิดว่าคนรุ่นพี่ถือว่ าเป็นวัยที่ผ่านร้อนผ่านหนาว
มาค่อนชีวิต เป็นช่วงวัยที่ กำ�ลังหอมหวาน แต่ไม่ใช่หอมหวาน
แบบวั ยรุ่ นนะ มั นเป็ นความหอมหวานที่ เกิดจากการ
บ่ มด้วยวั นเวลาอันยาวนาน จึ งเป็ นชี วิ ตที่รู้ สุ ขรู้ทุ กข์
ในทุกแง่มุม นั่นทำ�ให้คนในวัยเรามีความสุขุม แข็งแกร่ งด้วย
ประสบการณ์ และถ้ าสำ�หรับคนที่ยังมีความกระตือรือร้น
กับชี วิตอยู่อย่ างตัวเองนี่ ก็จะรู้สึกว่าชีวิ ตยังมีความสนุ ก
ไม่ใช่ความสนุกด้วยการโลดโผน แต่ สนุกเพราะเราได้มีเวลา
พิ นิจชีวิต เห็นคุณค่าของชีวิตมากขึ้น ทั้งชีวิตของตัวเอง
และผู้อื่น และพบว่าชี วิตยังมีสิ่งสวยงามอีกมากมายให้เรา
เก็บเกี่ยว ขณะเดี ยวกันเราก็พร้อมที่จะหว่ านโปรยความสุข
จากการเรียนรู้ชีวิตให้คนรุ่นต่อไป
ปองธรรม: ถ้าให้นิยามกว้างๆ ถึงคนวัยเดียวกัน ก็ น่าจะ
เรียกได้ว่าเป็ นวัยที่กำ�ลังแสวงหา แต่เราก็ได้เรียนรู้ชีวิต
มาแล้วช่วงเวลาหนึ่ง ได้เห็นอะไรมาบ้างแล้ วแต่ยังไม่หมด
จึงต้ องการพิสูจน์ตัวเอง ไม่ใช่แค่พิสูจน์ว่าทำ�ได้นะ สำ�หรั บ
วัยนี้แค่ ทำ�ได้ไม่พอ จะต้องทำ�ให้ดีด้วย เช่นอย่างตอนที่เรา
ทำ�งานแรกๆ เราก็อยากจะพิสูจน์ว่า เออ เราทำ�ได้ แต่เมื่อ
ทำ�ไปสักพักเราจะพ้นจุดของการทำ�ได้ หลั งจากนี้จะเป็น
ความกดดันว่าจะต้องทำ�ให้ ดีขึ้น เกิ ดการสร้างมาตรฐาน
ของตัวเองขึ้นมาแล้วพยายามรั กษาหรือทำ�ให้ดี กว่านั้ น
ถ้าถามว่ าทำ�ไมคนรุ่ นนี้ถึงพยายามที่ จะพิ สู จน์ ตัวเอง
ต้องการประสบความสำ�เร็จ เท่าที่เคยคุยมา พวกเขามี ฮีโร่
มี ไอดอลของเขาที่อยากจะเป็ น เขาตั้งเป้าหมายเอาไว้
แล้วพยายามก้าวไปให้ถึง
สภาพสั งคมมี ส่ วนกดดันเรื่ องความต้องการ
ประสบความสำ�เร็จหรือเปล่า เช่นว่ า ต้องมี บ้าน
มีรถขับ จึงจะเรียกว่ าประสบความสำ�เร็ จ
ปองธรรม: ก็ มีส่วนนะ ความสุขของหลายคนบางที
ก็เป็นรูปแบบมาตรฐาน อย่างเพื่อนเราหลายคนที่เคยเห็น
ก็เดินไปตามทางที่ ว่า คือทำ�งานเก็บเงินซื้ อบ้าน ซื้อรถ
ซื้อไอแพด แต่เอาเข้าจริ งเราหมุนตามมันไม่รู้ จบหรอก
เพราะเทคโนโลยีมันมาใหม่ อยู่เรื่อยๆ มันก็จะกลายเป็ น
ชีวิตที่ถูกบังคับให้ ทำ� เช่นว่า คุณไปผ่ อนบ้านไว้สองล้ าน
แน่ นอนว่าคุ ณอาจจะมี ความสุขที่ ได้ มี บ้ านของตั วเอง
แต่ชีวิตคุณจะถูกบีบให้จ่ ายค่าผ่ อนเดือนละสองหมื่นไปอีก
แปดเก้าปี มันถือว่าได้อย่างเสียอย่าง เราได้บ้านมาก็จริง
แต่ชีวิตก็จะถูกแรงกดดันบีบคั้ น มันเป็นชีวิตที่ คนรุ่นเรา
ต้องเลือกที่ จะเผชิญหน้ากั บสิ่งเหล่ านี้
นิ ยามชี วิ ตของคนรุ่ นใหม่ อย่ างเสฏฐวุ ฒิเป็ น
อย่างไร
เสฏฐวุ ฒิ: ผมชอบที่มี ใครสักคนเรียกคนรุ่นผมว่าเป็ น
‘ฤดูใบไม้ ผลิแห่งชีวิต’ หรืออย่างที่พี่ อรสมเรียกว่าเป็นวัย
‘หน้าต่างบานแรก’ คือเพิ่งจะได้ออกมาเผชิญชีวิตในระยะ
สั้นๆ เพิ่งจะเปิดหน้าต่างออกไปมอง ดอกไม้เพิ่ งจะผลิบาน
ใหม่ๆ โดยที่ ยังไม่เจออีกสามฤดูที่เหลือ และมักจะคิดว่า
ชีวิตเป็นเรื่องง่ายๆ ผมมองว่าชีวิตของคนในรุ่นนี้ถูกสร้างมา
หรือถูกดีไซน์มา เหมือนว่าพ่ อแม่เป็นสถาปนิกที่สร้างเขา
ขึ้นมา กำ�หนดเส้นทางชีวิตให้เสร็จสรรพ เพื่อไปสู่เส้ นทาง
ความสำ�เร็จอย่างที่นิยามไว้เมื่อกี้ คือทำ �งานได้เงิ นเดือนสูงๆ
มีบ้ านมีรถ ใช้ชีวิตแบบในโฆษณา ซึ่งผมคิ ดว่าบางครั้ง
สิ่งเหล่านี้ อาจถ่ ายทอดมาจากคนรุ่ นพ่อแม่ ที่ไม่ เคยได้
ไม่เคยมี ในสิ่งนั้ น
ปองธรรม: เราคิดว่าเรื่องนี้อั นตรายมากเลยนะ เราสังเกต
ว่ าหลายๆ ครอบครัว พ่ อแม่ ผ่านชีวิ ตมาด้วยความ
ยากลำ�บาก เขาได้เรี ยนรู้จากความยากลำ�บากจนประสบ-
ความสำ �เร็จ ซึ่ งอั นที่ จริ งบทเรียนของการประสบ-
ความสำ �เร็จคือความยากลำ�บากนั่ นแหละ แต่พอทำ�ไม
ตั วเองเลี้ ยงลู กดันเลี้ยงอี กแบบหนึ่ง คื อเลี้ยงแบบกลัว
เขาลำ�บาก ออกแบบทางเดินชีวิตให้เขาหมด บางคนเรียน
โรงเรียนวั ด กลายเป็นมหาเศรษฐี แต่พอมีเงิ นก็ส่งลูกไป
เรียนโรงเรี ยนไฮโซหรือไปเมื องนอก ซึ่งจริงๆ มันปิดกรอบ
การเรี ยนรู้ ของลูกหมดเลยนะ โอเคมั นอาจจะดีด้ วย
สภาพแวดล้ อม แต่ มั นก็ จะทำ � ให้ ลู ก ไม่ ได้ เ รียนรู้
จากความเป็ นจริงของชีวิต ไม่ได้แก้ปัญหาที่จะเกิ ดในชีวิต
เช่นมี เพื่อนเสพยาในห้อง จะแก้ไขยั งไง หลีกเลี่ยงยังไง
มีครูเจ้ าระเบียบที่ไม่ ยอมลงให้เรา แต่นี่ ไปเรียนโรงเรียน
ซึ่งมีครู ปฏิบัติกับเขาเหมือนเป็นคนรับใช้ แล้วคิดดูว่าชีวิต
จริ งจะมี คนตามใจเราได้สักกี่คน คนเราจะเรี ยนรู้ชีวิต
แ ต่ ส า ย ส ว ย ง า ม ไ ม่ ไ ด้ ห ร อ ก ต้ อ ง เ รี ย น รู้ ชี วิ ต
ในอีกด้านหนึ่งด้วย ไม่งั้ นชีวิตมันก็ไม่เป็นชีวิต
{ เรื่องราวของคนสามรุ่น ในมุมมองของนักบันทึกชีวิต}
“ผมชอบที่มีใครสักคน
เรียกคนรุ่ นผมว่าเป็น
ฤดูใบไม้ผลิ แห่งชีวิต”
เสฏฐวุฒิ