Read me 31 - page 15

ของสังคมในช่วงเวลานั้นๆ ย่อมมีผลต่อพฤติกรรม
และการปฏิบัติ ของคนในสังคม ดังนั้น เมื่ อเรา
เข้าใจลั กษณะการประกอบสร้างของสังคมและ
วัฒนธรรมของแต่ ละช่วงเวลา ก็จะท�ำให้เราเห็น
ภาพรวมของความเป็นไป และมองปรากฏการณ์
ความหลากหลายทางเพศที่ไม่ได้ มีเฉพาะ ชายและ
หญิงอย่างที่เคยเข้าใจบริบทอย่างที่ สิ่งนั้นๆ เป็ น
ในเรื่องค�ำจ� ำกัดความกลุ ่มเพศต่ างๆ ที่
ดู เหมื อนจะเป็นปั ญหาที่กระอักกระอ่ วนที่ สุด
อ.บอล เสริมว่า “การจะไปเรียกใครแบบไหน เรียก
กะเทย เกย์ ไบ เลสเบี้ยน ตุ๊ด แต๊ว มันยากถ้าเราต้อง
ดูว่าใครคนนั้นเต็มใจให้เราเรียกเขาอย่างนั้นไหม แต่ที่
เราท�ำได้คือการเรียกด้วยความเคารพในความเป็น
มนุษย์ของเขา เพราะพวกค�ำจ�ำกัดความมันก็คือการ
สร้างหมวดกลุ่มค�ำขึ้นมาเพื่อเรียกแทน เป็นการ
เคลื่อนไหวที่ดึ งเอาอัตลักษณ์ทางเพศวิถี หรือเพศ
สภาวะของตนเองมาสร้างเป็นแรงขับเคลื่ อนว่า
ฉันภูมิใจที่ฉันเป็นของฉันแบบนี้”
เมื่อมีค� ำจ�ำกัดความ ย่อมมีการทลายกรอบ
การปรากฏตั วของกลุ่ม LGBT ที่ดู จะมีภาพของ
การสวมบทบาททางเพศอย่างชัดเจนแล้ วกลับถูก
ฉีกกรอบใหม่อีกครั้ง เพราะโลกไม่ได้ มีแค่ ทอมดี้
เกย์ ไบ กะเทย หญิงชาย ท� ำให้เกิดมโนทัศน์ ของ
ค�ำว่า Queer ที่ ในปัจจุบันยังไม่ ได้แปลหรือนิยาม
แน่ชัดเป็นภาษาไทย แต่การเกิดขึ้นของเควียร์นี้เอง
ที่บ่อนเซาะและท� ำลายลักษณะ รสนิยม รวมไป
ถึงอัตลักษณ์ทางเพศต่างๆ ที่ มีมาก่อนหน้ า ทั้งนี้
เควียร์อาจหมายถึ งบุคคลหรื อพฤติกรรมที่ไม่ อยู่
ในกรอบ รวมถึงไม่ สามารถจัดอยู่ในกรอบของ
ชาย หญิง เลสเบี้ยน เกย์ ไบเซ็กชวล หรือทราน
เจนเดอร์ ได้ อย่างชัดเจน
มาถึงตรงนี้จะเห็นได้ว่า เรื่ องของเพศนั้นไป
ไกลกว่าที่เราเริ่มตั้งข้อสงสัยอย่างมาก และดูจะ
หาค�ำตอบไม่ได้สักทีว่าตกลงแล้ ว “เพศคืออะไร?”
ค�ำอธิบายความและขอบเขตสิ้นสุดอยู่ ที่ต�ำแหน่งไหน
อย่างที่ อ.บอล สัมทับมาว่า “ถ้าเรามองว่ามันเป็น
ความงามของสังคม เพศคื อความสลับซั บซ้อน
และเลื่อนไหลไปมากกว่าการหาค�ำนิยามจ�ำกัด ที่
ส�ำคัญคือแม้ว่าเราจะพยายามไปนอกกรอบแค่ไหน
เราก็ยังมี Reference ทางสังคมไว้อ้างถึงอยู่ดี ตรงนี้
เลยเป็นเหมื อนขอบเขตสุดท้าย นั กสังคมวิ ทยา
นักมานุษยวิทยาไปศึกษาเรื่องชาติพันธุ์ ชนเผ่า
คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยี ศึกษาคนเมืองต่ างๆ
มากมาย เรื่องเพศนี่ เหมือนจะเป็นเรื่องสุ ดท้าย
เป็น Final Frontier ที่ทางสั งคมศาสตร์เราอยาก
ให้มันเปิดเผย อยากท�ำนู่นท� ำนี่ให้คนกลุ่มนี้ แต่
ลองถามตัวนักสั งคมศาสตร์ดู เองสิ ว่าพื้นที่ทาง
วิชาการปัจจุบันนี้ยอมรับเรื่องพวกนี้แค่ไหนกั น”
“แต่บางที มันเหมือนมีเส้นที่เรามองไม่ เห็น
เป็นเส้นบางๆ กั้นไว้ระหว่างการยอมรับ แต่ยอมรับ
ไม่จริ ง แม้จะมีการเคลื่ อนไหว มีการก้ าวข้ามอะไร
บางอย่าง เช่นกระเทย ก็ต้องก้าวให้ พ้นผู้หญิ ง คือ
ต้องสวย ต้องเก่ง ต้องดี ไม่อย่างนั้นจะไม่ได้รับการ
ยอมรับ ในประเทศไทยถึงขั้นมี การบัญญัติ ศัพท์ว่า
กุลกะเทย กุลเกย์ คือเหมือนจะบอกว่าอยากเป็น
อะไรก็เป็นไป แต่ต้องเป็นให้ดี ให้ อยู่ในร่องรอย
ในศีลธรรมอันดี ถ้าไม่ดีก็ไม่ยอมรับอีก เราเปิดใจไม่จริง
ลึกๆ แล้วเราไม่ยอมรับเท่าไหร่เลย”
เพราะเราไม่ ได้อยู ่ในสู ญญากาศเวิ้งว้ างไร้
แรงโน้มถ่วง เครื่ องจักรสั งคมยังคงหมุนเราต่ อ
เนื่องทุกวัน ความคิด ความเชื่อ อคติ มายาคติ
หรือแม้กระทั่งค�ำจ�ำกัดความที่มีต่อเพศสภาวะต่างๆ
กั บบางเรื่ องที่เราไม่อาจหาข้อสรุ ปหรือค�ำ
ตอบให้แน่ชัดได้ ความเข้าใจอย่างเท่าทันน่าจะดีที่สุด
15