Read me 31 - page 23

ช่ วงที่ท�ำงานเขียนแรกๆ อย่างที่ รู้กั นคือ
วรรณกรรมซี เรียสก็มีกลุ่มคนอ่านน้อยอยู่แล้ ว
คิดไหมว่าการตั้ งค�ำถามล่ อแหลมแบบนี้อาจจะ
ส่ งผลกระทบท�ำให้งานโดนเซ็ นเซอร์
ใน กระจกเงา/เงากระจก เรื่ องเพศมี
อิทธิพลต่อความสัมพันธ์ของตัวละคร มีตัวละคร
ที่ได้รับผลกระทบจากการล้อเลียนเกี่ยวกับเรื่องเพศ
ท�ำไมจึงตัดสินใจให้ เป็นแบบนั้น
ก็ไม่ได้โดนเซนเซอร์นะ กลุ่มคนมันน้อย มันก็
ไม่ ได้สร้างแรงกระทบถึงขนาดที่ว่ ามีความกดดัน
ทางสังคม ก็แค่มีนิยายเล่มหนึ่ งออกมา แต่ว่าเรื่องเพศ
มันก็ไม่ใช่เงื่อนไข แต่เป็นส่วนประกอบของนิยาย
คื อมันก็มีเรื่องอื่นที่มันถูกน�ำเสนออยู่ด้ วยในเรื่อง
ระบ� ำเมถุน
จริงๆ แล้ว เราก็ถ่ายทอดสภาพสังคมแบบนั้น
คือในสังคมจริงๆ ก็เป็นแบบนั้นน่ะ ใช่ไหม เราก็
เอาใส่เข้ามา ซึ่งสังคมในช่วงนั้นไม่ได้เปิดกว้างเรื่อง
เพศมาก คนที่เป็นเพศที่สาม หรือเป็นกะเทย
แบบที่ปรากฏตามละคร ก็จะมีลักษณะเป็นตุ๊ ดหรือ
ตัวตลก แต่ส� ำหรับคนที่ เป็ นเกย์ ก็ ยังไม่ค่อยมี
พื้นที่ที่ชัดเจน
แต่เราสนใจในตัวตนของมนุษย์มากกว่า เรา
รู้สึ กว่าในตัวเราคนหนึ่ งมันไม่ได้เป็นเอกบุรุษคน
เดียว หรือคนๆ นั้ นคนเดียว แล้วคนๆ นั้นไม่จ�ำเป็น
จะต้องรักษาสิ่ งนี้ ความเป็นบุคลิกภาพอันนี้ให้คงอยู่
ตลอดชั่วชีวิต เราพบว่าในคนๆ หนึ่งมีหลายตัวตน
มากกว่าสองด้วยซ�้ำ ความสนใจในบุคลิกภาพที่เป็น
สอง เกิดขึ้นจากตอนเขียน ระบ�ำเมถุน พัฒนามาเป็น
กระจกเงา/เงากระจก ซึ่งมันก็ แยกชัดเจนว่ าเป็น
ปัจจุบันกับอดีตแล้ วเราก็แล่นคู่ขนานกันไป ซึ่งถ้า
อ่านจนจบแล้วก็จะรู้ว่าเป็นคนๆ เดียวกั น หลังจาก
นั้นก็ถูกแตกออกมาด้วยเงื่อนไขใหม่ใน ลับแล, แก่งคอย
ที่เป็นพี่น้องกัน ซึ่งก็สะท้ อนลักษณะที่เป็นคนสอง
บุคลิ กภาพ
23