Read me 31 - page 18

ดร.ชเนตตี ทินนาม ผู ้ ช่วยคณบดี ฝ่าย
วางแผนและพัฒนาหลักสูตร คณะนิเทศศาสตร์
มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิตย์ กล่ าวถึงเลสเบี้ยนใน
พื้นที่ของสื่อเอาไว้ว่า “ต้องย้อนกลับไปถึงการต่อสู้
ที่จะปลดปล่อยผู้หญิ งจากสังคมชายเป็นใหญ่ มัน
เป็นระบบเดียวกัน ความเป็นเลสเบี้ยนมีอี กกรง
หนึ่งที่ซ้อนทับอยู ่คื อความเป็ นหญิง ความเป็ น
เกย์ก็ มีกรงหนึ่งที่ซ้อนทั บอยู่คื อความเป็นชาย ใน
งานสื่อสารมวลชนมี เรื่องเลสเบี้ยนน�ำเสนอออก
มาน้อยมาก เพราะความเป็นเลสเบี้ยนซ้อนอยู่ใน
ความเป็นหญิงจึงถูกผลักให้เป็ น Second Class
อยู่ร�่ำไป”
“เป็นเรื่องน่ าแปลกที่มุมมองเรื่องเพศของ
สื่อมวลชนที่มีต่อเลสเบี้ยนมันอยู่ในรูปแบบที่เป็น
สากล” ดร.ชเนตตีตอบเมื่อเราถามถึงความแตกต่าง
ของสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศเกี่ยวกับเรื่อง
เลสเบี้ยน ดร.ชเนตตียกตัวอย่างการผลิตซ�้ำวาทกรรม
ยอดฮิตของสื่อ “เพราะเกลียดผู้ชายเลยกลายเป็น
เลสเบี้ยน --วาทกรรมชุดนี้ถูกน� ำเสนอซ�้ำแล้วซ�้ำ
เล่าในสื่อ ท�ำให้คนเข้าใจว่าเลสเบี้ยนจะต้องเป็น
ศัตรูกับผู้ชาย เพราะผู ้ ชายเป็นสาเหตุ ให้เธอกลาย
เป็นเลสเบี้ ยน ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ ผิด เพราะ
สาเหตุของการกลายเป็ นเลสเบี้ยนไม่ ได้เกิดจาก
ค�ำอธิ บายชุดใดชุดหนึ่งเพียงชุดเดียว มันมีชุดค�ำ
อธิบายอีกมากมายแต่ สื่อมวลชนพยายามสร้างภาพ
แทนภาพเดียว”
“สั งคมต่างประเทศเองก็พยายามที่จะค้นหา
ว่าท�ำไมคนหนึ่งถึงกลายมาเป็นคนรักเพศเดียวกัน
ซึ่งการตั้งค�ำถามแบบนี้ไม่ก่อให้ เกิดประโยชน์อะไร
นอกจากการเพิ่มชุดมายาคติ และการก้าวล่วงเข้าไป
สู่พื้นที่ความเป็นส่ วนตัว” ดร.ชเนตตียกตัวอย่าง
การเปิดตัวของดาราสาวคู่หนึ่งในฐานะคู่รัก แทนที่
พิธีกรจะตั้ งค�ำถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ และการ
สร้างครอบครัว แต่กลับมุ่งไปที่ ประเด็นว่าท�ำไม
จึงเปลี่ ยนรสนิยมมาชอบเพศเดี ยวกัน ซึ่งนอกจาก
จะเป็นค�ำถามที่ ก่อให้ เกิดภาพจ�ำบางอย่างแล้ว ยั ง
เป็นการสร้างกรอบความคิดตายตัว ว่าในโลกนี้
18