Read me 31 - page 22

ในบรรดารายละเอียดต่างๆ ที่ปรากฏอยู่ ในเรื่องเล่า มายาคติ
ทางเพศ เป็นอีกประเด็นหนึ่งที ่ เด่นชัดอยู่ในงานเขียนของเขาตั้งแต่
เล่มแรก แตกแขนงออกมาจวบจนงานเขียนในปัจจุบัน เราจึงอดไม่ได้ที่
จะชวนคุย ขบคิดและตั้งค�ำถามต่อประเด็นล่อแหลมที่เขาสนใจ
ตั้งแต่งานเขียนเรื่องแรก ระบ�ำเมถุน ก็ มี
การตั้งค�ำถามเรื่องเพศ ตัวละครในเรื่องค่อนข้าง
มีมิติซั บซ้อน อยากรู้ว่าช่วงนั้นมีความสนใจต่อ
เรื่องเพศอย่างไร หรือว่าประเด็นเรื่องเพศเข้าไป
อยู่ในงานได้อย่างไร
ตัวงานหลายๆ เล่มที่ตั้งค�ำถามเรื่องนี้ ได้
รับอิทธิพลจากการอ่านที่สะท้อนมายาคติทางเพศ
หรือหยิบจับอะไรมาเป็ นส่วนหนึ่งของงานบ้าง
มันเข้ามาอย่างเป็ นธรรมชาติ จริงๆ เวลาที่
เราพูดถึงเรื่องความรักเนี่ย มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้
ไม่จ�ำกัดเพศอยู่ แล้ว ทั้งกับชายและหญิ ง มันไม่มี
ขอบเขตส�ำหรับหัวจิตหัวใจคน ซึ่งเรามองมันเป็น
อารมณ์ความรู้สึ กของมนุษย์ เป็นเรื่องธรรมดา
ธรรมชาติมาก เพียงแต่เราไม่ได้มองว่าความรัก
มันจะต้องเกิดในลักษณะที่เป็นเรื่องของเพศตรงข้าม
เสมอ
อาจจะไม่ ได้มาโดยตรงจากวรรณกรรม แต่
ก่อนนั้ นมีช่ วงบ้าหนั ง ชอบดูหนั งจากเทศกาล
ภาพยนตร์ ช่วงนั้นอิทธิ พลทางความคิดก็น่ าจะ
ได้มาจากหนัง โดยเฉพาะค� ำถามเรื่องความรัก
เรื่องเพศ ตอนนั้นจ�ำได้ว่าดูหนังของดิเรก จาร์แมน
แล้วเราชอบมาก ชื่อเรื่อง The Garden คือตัวเขา
เคยเป็นเกย์มาก่ อน แล้วก็ จะเล่าเรื่องที่มันบิด
ประวัติ ศาสตร์อังกฤษให้กลายเป็น Homosexual
หมดเลย ใช้ภาษาของหนังเป็นแบบละครเวที
ส่ วนที่กระทบใจมากเลยคื อหนังช่วงท้ายๆ
ในชีวิ ตของเขา ตอนที่เขาป่ วย เหมือนจะเป็น HIV
เขาท�ำหนังเรื่ อง Blue เป็นสี ฟ้าทั้งเรื่ อง คือเรา
ก็ รู้สึ กว่าภาวะแบบนี้แหละที่ท�ำให้เราตั้ งขอบเขต
ค�ำถามเกี่ ยวกับเรื่ องความรัก เรื่องเพศเรารู้สึกว่า
เวลาที่มันไม่ใช่เป็ นความรักระหว่างชายกับหญิง
มันดู จะไม่ปกติทางสังคมขึ้ นมาทันที ก็เลยเป็น
ความรู้ สึกที่ ค่อนข้างกระทบใจว่ าท�ำไมสังคมมัน
จะต้องมี ลักษณะต่อต้ าน เห็นแย้ง ชิงชังสิ่งที่ เกิด
ที่ไม่ใช่ชายหญิง คือปัจจุบันเราก็ เห็นว่ามันมี ความ
หลากหลายทางเพศ
22