Read Me 39 - page 41

41
39
คุณชอบฟังเพลงไหมครับ?
ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบฟังเพลงเป็ นชีวิตจิตใจ เรียกว่าแต่ ละวัน
ขาดไม่ได้ ขนาดที่ว่าถ้ าลืมเอาหูฟังออกจากบ้าน ถึงจะเดินออก
มาถึงปากซอยแล้ว แต่เพิ่งคิดได้ว่าลื ม ก็ยอมเดินย้ อนกลับไป
เอาหูฟังมาฟังเพลงให้เพลินอารมณ์ และถ้ าวันไหนไม่มีหู ฟัง
ฟังเพลงจริงๆ วันนั้นจะเป็นวันที่ชีวิตเหี่ยวเฉาสุ ดๆ ไปเลย
คนฟังเพลงก็ย่อมมีศิลปิ นในดวงใจ ถ้าใครวัยรุ่น (ราวคราว
เดียวกับผม) ที่ มี ใจป๊อบร็อกและฟั งเพลงกระแสหลั กแล้ว
บอดี้สแลม คงเป็นวงดนตรียอดนิ ยมที่น้ อยคนจะไม่รู้จัก
ผมเติบโตมากับเพลงร๊ อกยอดฮิตจากน�้ ำเสี ยงพี่ตู น-
บอดี้สแลม มามากกว่า 10 ปีแล้ว ทั้งเพลงรัก เพลงอกหัก เพลง
สนุก ช้ า เร็ว ผมร้องได้หมด เวลาล่ วงเลยมานานขนาดนี้มัน
ท�ำให้ผมสัมผัสได้ถึ งความเติบโตของทั้ งบอดี้สแลม และการ
เติบโตของตัวผมเอง คู่ขนานกันเรื่อยมา
การเติบโตของผมเองท�ำให้มุมมองที่มี ต่อเพลงของบอดี้-
สแลมเปลี่ยนไป และมุมมองของศิ ลปินต่อผลงานที่สร้างสรรค์
เพลงก็ต้องมีการเปลี่ ยนแปลงไปตามกาลเวลาอย่างแน่นอน
การเติบโตที่ ผมหมายถึงคือบอดี้สแลมเริ่มมี เพลงที่พูด
เรื่องอื่นๆ นอกเหนือจากเรื่องอกหักรักคุ ด แต่พูดถึงเรื่ องชีวิต
มากขึ้น หากไล่เรียงเพลงที่มี เนื้อหาเกี่ยวกับชี วิต ตั้งแต่เพลง
ชีวิ ตเป็นของเรา ความเชื่อ แสงสุดท้าย เรื อเล็กควรออกจากฝั่ ง
ชีวิ ตยังคงสวยงาม dharmajāti (ดั ม-มะ-ชา-ติ) (เรียงตามล�ำดับ
ก่อนหลัง) ทั้ งหมดล้วนกล่าวถึงเรื่องชีวิตทั้งสิ้น
จากไม่เคยมีเพลงแนวนี้ – จนมีเล็กน้อย – มีเพิ่ มขึ้น- จนถึง
มีเป็ นส่วนใหญ่ ท�ำให้ใครๆก็บอกว่ า บอดี้สแลมเปลี่ยนแนว
เพลงเป็นแนวเพื่อชีวิ ต เห็นได้จากเนื้อเพลงเหล่านี้
ชีวิตเป็นของเรา - ชีวิตจะเป็นแบบไหน คงต้องเลือกเอา
ก็ตัวของเราก็ใจของใครของมัน
ความเชื่อ - ชี วิ ตมันต้ องเดินตามหาความฝัน หกล้ม
คลุกคลานเท่าไหร่
แสงสุดท้าย- ชีวิตเริ่มต้นที่ค�ำว่าฝ่าฟัน ขอเพียงใจเราเท่านั้น
ไม่หวั่นไหว บทชี วิตของเรา เราจะท�ำให้มี ความหมาย
เรือเล็กควรออกจากฝั่ ง - จะออกไปแตะขอบฟ้า แต่เหมือนว่า
โชคชะตาไม่เข้าใจ มองไปไม่ มีหนทาง ชีวิ ตฉันต้องล่มลงใช่ไหม
ชีวิตยังคงสวยงาม - จะยิ้มรับมันวันที่ใจอ่อนแอ แม้ทุกเรื่อง
ราวมันยังคงโหดร้าย สุขทุกข์ที่เราพบพาน มันคือชีวิตของเรา
“dharmajāti (ดัม-มะ-ชา-ติ) - ความจริงจากฟ้า ขี ดไว้ให้
โลกสวยงาม เศษส่วนภูผาที่โดนกั ดกร่อน มั นยังสั่งและสอน ให้
มีชีวิตยอมรั บกับความผันแปร อาจเคยแพ้ และต้องเจ็ บปวด
มีรอยความผิดหวัง และคราบน�้ำตา
บางส่วนของเนื้อเพลงเหล่านี้ ท�ำให้บอดี้สแลมมีภาพลักษณ์
ของเพลงไทยสากลที่สอนเรื่ องชีวิตให้กับวัยรุ่นไปแล้ว ถึงขนาด
มีคนท�ำคลิปวิดีโอล้อเลียนด้วยการรวมเสียงร้ องของพี่ตูนที่ร้อง
ค�ำว่า “ชีวิต” ไว้ในคลิ ปเดียว เรียกร้อยยิ้มและเสียงฮาจากคน
ดูอย่างล้นหลาม
ภายในเพลงที่พูดเรื่องชีวิตของบอดี ้สแลม ก็มีรายละเอียด
ย่อยๆ ที่แตกต่างกันไป ถึ งแม้ว่ าเนื้อหาส่วนใหญ่ ของเพลง จะ
ออกแนวการให้ก�ำลั งใจ,การยุให้เราออกไปใช้ชีวิ ตอย่างเต็มที่,
การให้เราอดทนและต่อสู้กับชีวิต, การท�ำตามความฝันของชีวิต
แต่ก็ยังมี ความขัดแย้งในบางอารมณ์ของเนื้อเพลงที่ผมจับผิด
ได้เพราะในขณะที่เนื้อเพลง ชีวิตเป็ นของเรา ท่ อนแรกร้องไว้ว่า
คนเราจะมีพรุ่งนี้ได้ อีกกี่วัน เวลามี เหลือกั นเท่าไหร่ แต่ท่อน
สุดท้ายของเพลง อกหัก กลับร้ องไว้อีกอย่างว่ า ต้องไม่ ตาย ชีวิต
ยังมีพรุ่งนี้เสมอ
ดีที่ทั้ งสองเพลงมาจากผู้แต่งคนละคน
เนื้อร้องที่ ขัดแย้ งกัน ท�ำให้ ผมผุดเนื้อร้องอีกเพลงขึ้นมาว่า
สรุปวันนี้จะเอาไงกั น? (จากเนื้อเพลง ท่านผู้ชม) ฮ่า
ค�ำพูดที่ขัดแย้งกันก็ ออกมาจากปากของพี่ตูนคนเดียวกัน
แต่ต่างเวลา ต่างจังหวะเท่านั่น สิ่งนี้สอนให้ ผมรู้ว่า ชีวิ ตนี้ ไม่มี
อะไรแน่นอน เพราะขนาดพี่ตูนก็ ยังมีค�ำร้ องที่เปลี่ยนไปเลย
บางทีก็ให้ลุกไปใช้ชีวิตให้เต็มที่ เพราะไม่รู้ว่าเราจะตายวันไหน
ปัจจุบันมีชีวิตอยู่ก็ใช้ ซะ แต่ถ้าวันไหนเหนื่อย ท้ อ หรือผิดหวัง
มา ก็จงจ�ำไว้ว่ าให้เอาใหม่ พรุ่งนี้ต้ องดีกว่าเก่า
ก็อย่างที่ว่ า พรุ่งนี้ ยังมี เสมอ แต่จะมีชีวิตให้อยู่ถึงพรุ่งนี้
รึเปล่า อันนี้ไม่ รู้ แต่ถ้ายังมีชีวิ ตอยู่ ที่รู้ๆ คือยังมีพรุ่งนี้เสมอ
..... เอ๋?