Read Me 39 - page 36

36
speaker
เรามักจะถูกบอกจากคนรุ่นก่ อนว่ามันเป็ นสิ่งที่ไม่ ดี สั งคม
กลางคืนก็เลยมีภาพลักษณ์ ที่ไม่ ดี กลายเป็นสเตอริโอไทป์
ของคนในสั งคมกลางคืนไป ซึ่ งมันก็คือสิ่ งที่สังคมตีความ
ไปแล้ว แต่ในความคิดเรา คนกลุ่มนี้คือกลุ ่มคนที่ชอบการ
แฮงก์เอาท์กับเพื่ อน ออกไปเพื่อเจอสังคมอื่นในบรรยากาศ
นั้นๆคนประเภทนี้อาจจะบู๊ๆบ้าๆรักเพื่อนซึ่งมันเป็นไทป์ของเรา
ก็มองว่ามันท�ำให้ใครเดือดร้อน แต่ถ้าแบ่ งอีกประเภทหนึ่ง
คือเป็นคนที่เที่ ยวกลางคืนแล้ วเละเทะ จนเสียการเสียงาน
อันนั้นก็ไม่น่าจะโอเค
ส�ำหรับเรา เรามองว่ ามันคือการใช้ชีวิตในรูปแบบหนึ่ง
กลางวันเราท�ำงาน กลางคืนเราก็ต้ องใช้ชีวิ ตในอีกแบบหนึ่ ง
เราก็ใช้ มันให้ คุ้ ม มันคือการพุดคุยเจรจากันในอีกรู ปแบบ
การเปิดใจกัน ได้เจอเพื่อน ได้ ระบายความเครียด เราว่ าคนรุ่น
เราควรจะใช้ชีวิตบาลานซ์กัน แต่ว่าก็ต้องมีลิมิตอะไรบางอย่าง
มีคนบางที่มองไปที่จุดใดจุดหนึ่งในอนาคตโดยที่ไม่ได้ชื่นชม
กับเรื่องราวระหว่ างทาง เลยไม่มี เวลาพอที่จะถอยมาดูชีวิต
เลยว่าควรจะวางแผนตัวเองอย่ างไร ซึ่งเรามองว่าบางที มัน
ต้องมีการเบรกเพื่ อการใช้ชีวิตบ้าง ซึ่งมั นก็คือการพักผ่อนอี ก
สไตล์หนึ่งซึ่งก็เป็นชีวิตของเรา พอเราได้พักเราก็รู้สึกว่าเราต้อง
ท�ำงานได้แล้วนะ ได้พักเต็มที่แล้ ว
สังคมกลางคืนช่วยสร้างโอกาสบางอย่าง
ให้กับเราได้ด้วย?
นักธุรกิจส่วนใหญ่ ก็มีชีวิตกลางคืนกันทั้งนั้น กลางวันมัน
คือการด�ำเนินธุรกิจปกติ กลางคืนมันคือการสร้างคอนเน็กชัน
กลางคืนเองก็มี คอมมิวนิตี้ทางสังคมแบบถอดหัวของงานออก
ไปแล้ว แต่เราก็ยังสามารถสร้างความสัมพันธ์เกี่ยวกั บงานได้
อยู่ ซึ่งความสัมพันธ์แบบนี้มันเป็นทอดๆ ต่อๆ กัน ซึ่งในมุมมอง
ของคนภายนอกก็จะมองเพียงแค่มุ มเดียว
ในแง่ธุรกิจถือว่ าแซบปาร์ตี้โตเร็วมาก มี
อุปสรรคหรือปั ญหาอะไรบ้างไหมคะ?
เราก็ไม่อยากจะมองว่ามันเป็นปัญหานะ ตัวเราเองก็ไม่ได้
โตไวขนาดนั้น เรายั งมีข้อผิดพลาดอี กเยอะ เราเลยยังไม่อยาก
ให้คนภายนอกมองว่าเราโตเร็ว แต่จริงๆ เราก็ขยับไปเรื่อยๆ
ตอนนี้เราก็พยายามเซ็ ตระบบภายในให้มั นดีขึ้น เราแบ่ งการ
ท�ำงานออกเป็นช่วง ช่วงละสามปีในการขับเคลื่อนธุรกิจ สาม
ปีแรกของเราคือประสบการณ์ การลงทุนเพื่อสร้ างแบรนด์
ไม่ได้ กังวลเรื่องก�ำไรมากนัก อีกสามปีต่อมาก็ จะเน้นการลงทุน
ที่ควบคู่ไปกับประสบการณ์ อีกสามปีหลังจากนั้ นเราก็จะขยับ
ไปอีก อาจจะเป็นเข้าตลาดหลักทรั พย์หรืออะไรก็แล้ วแต่ นี ่
คือที่เราวางไว้ เราเองก็ เพิ่งนับหนึ่ งอย่างจริงจังก็เมื่อปีที ่แล้ว
ที่ผ่ านมาเราท�ำเพราะเราสนุก เราไม่ได้มองในเชิ งธุรกิจ ซึ่ ง
ในทางธุรกิจจริงๆ เราอ่อนแอมาก ช่วงหลังเราก็เลยพยายาม
ท�ำให้มั นเป็นธุรกิจมากขึ้น
ในอนาคตทีมแซบวางแผนว่าอย่างไรบ้างคะ?
ต้องอธิ บายไทป์ของงานที่แซบท�ำก่อน ซึ่งจะมีทั้งหมดสี่
งาน สี่รูปแบบ คือมิ วสิก ปาร์ตี้ สปอร์ต แฟชั่ น ซึ่งเราก็มีแค่
สี่สถานีนี้ ที่เราจะท� ำ เราจะไม่ท� ำเกินนี้ เรามองว่าสี่สิ่งนี้ มัน
เจาะทาร์เก็ตที่เป็ นเด็กมหา ‘ลัย คนรุ่นเรา ในอนาคตเราก็จะ
มาโฟกัสที่งานอย่างออร์แกไนเซอร์มากขึ้น ซึ่งความเสี่ยงมัน
น้อยกว่า เป็ นการรับจัดงานอี เว้นท์ที่ไม่ หนีจากสี่หั วข้อที่ เรา
ท�ำ คือเราจะพยายามเป็นออแกไนเซอร์ที่เป็นรู ปแบบมากขึ้น