17
เวลาเข้
าวั
ดกราบพระ หลายคนคงรู
้
สึ
ก
เหมื
อนกั
นว่
าพระพุ
ทธรู
ปก�
ำลั
งมองลงมาที่
เรา
แต่
ส�
ำหรั
บศิ
ลปะหิ
นทรายสามมิ
ติ
เจ้
าของ
OTOP
5 ดาวแห่
งจั
งหวั
ดสระแก้
วนี้
กลั
บสร้
างพระ
พุ
ทธรู
ปและภาพศิ
ลปะที่
ท�
ำให้
เรารู
้
สึ
กเหมื
อน
กั
บว่
า ถึ
งจะอยู่
มุ
มไหน ดวงตาในงานนั้
นๆ ก็
จะ
มองตามติ
ดเราไปทุ
กที่
!
เจ้
าของไอเดี
ยสุ
ดยอด
OTOP
ประจ�
ำปี
พ.ศ. 2552 ชิ้
นนี้
ก็
คื
อ คุ
ณพรพล เอกอรรถพร
ซึ่
งก่
อนจะกลายมาเป็
นศิ
ลปะหิ
นทรายสามมิ
ติ
ในปั
จจุ
บั
น คุ
ณพรพลเคยท�
ำภาพศิ
ลปะหิ
นทราย
แบบธรรมดาเป็
นภาพศิ
ลปะแบบนู
นสู
งและนู
นต�่
ำ
ในลั
กษณะศิ
ลปะแบบเขมรมาก่
อน เพราะ
สถานที่
ตั้
งถื
อเป็
นประตู
มุ
่
งสู
่
ประเทศกั
มพู
ชา
และสถานที่
ศั
กดิ์
สิ
ทธิ์
อย่
างนครวั
ด-นครธม
โดยเหตุ
ที่
ใช้
หิ
นทราย ก็
เพราะเป็
นของหาง่
าย
ในพื้
นที่
อี
กทั้
งยั
งมี
คุ
ณสมบั
ติ
ที่
พิ
เศษกว่
า
หิ
นชนิ
ดอื่
น คื
อมี
ความอ่
อนมากกว่
าหิ
นแกรนิ
ต
จึ
งท�
ำให้
บดได้
ง่
าย โดยหิ
นทรายในประเทศไทยนั้
น
มี
โทนสี
ไปทางเอิ
ร์
ธโทน สี
หลั
ก 4 สี
ได้
แก่
COMBINATION
เรื่
อง : วนิ
สา พั
ดศรี
if you can
eye
s
สี
เขี
ยวขี้
ม้
า สี
เหลื
อง สี
ทองแดง และสี
ขาว
นอกจากนี้
ตั
วหิ
นทราย ยั
งมี
ความเป็
นประกาย
ในตั
วมั
นเองประกอบออกมาแล้
วกลายเป็
น
ศิ
ลปะที่
เปล่
งประกายอย่
างเป็
นธรรมชาติ
ก่
อนที่
จะกลายมาเป็
นศิ
ลปะหิ
นทราย
แบบสามมิ
ติ
ดั
งเช่
นในปั
จจุ
บั
นนั้
น เริ่
มต้
นมาจาก
คุ
ณพรพลมี
โอกาสไปเดิ
นเที่
ยวงานเกี่
ยวกั
บ
การแสดงผลงานทางด้
านวิ
ทยาศาสตร์
ท�
ำให้
พบนวั
ตกรรมภาพสามมิ
ติ
ที่
ใบหน้
าของรู
ปปั
้
น
จะหั
นตามผู
้
ที่
มอง จึ
งเกิ
ดเป็
นไอเดี
ยที่
จะประยุ
กต์
ปรั
บปรุ
ง เป็
นการเจอกั
นครึ่
งทางของศิ
ลปะและ
วิ
ทยาศาสตร์
พั
ฒนาชิ้
นงานมากกว่
าครึ่
งปี
เพื่
อ
ความสมบู
รณ์
ที่
สุ
ด กว่
าจะได้
ผลงานที่
เป็
นต้
นแบบ
โดยใช้
หลั
กการหั
กเหของแสงเป็
นภาพแนวเว้
าลึ
ก
แต่
เมื่
อมองแล้
วกลั
บรู
้
สึ
กว่
ารู
ปนั้
นลอยนู
นขึ้
นมา
ที่
ต้
องใช้
เวลาค่
อนข้
างนาน เพราะต้
องหาจุ
ดสมดุ
ล
ของงาน หากท�
ำภาพลึ
กเกิ
นไปภาพจะดู
แข็
งๆ
ปฏิ
กิ
ริ
ยาการเกิ
ดแสงสะท้
อนก็
ออกมาน้
อย
หากภาพตื้
นเกิ
นไปรู
ปก็
ออกมาไม่
สวย
นอกจากความแปลกแล้
วสิ่
งที่
ใส่
ใจ
อี
กอย่
าง นั่
นคื
อ ความสวยงาม สิ
นค้
าในช่
วงแรก
คื
อท�
ำงานศิ
ลปะแบบเขมร งานศิ
ลปะทั่
วไป รวมถึ
ง
งานพระพุ
ทธรู
ป แต่
งานที่
ได้
รั
บความนิ
ยม
สู
งสุ
ดกว่
า 80 - 90% คื
องานพระพุ
ทธรู
ป จึ
ง
พั
บโครงการแรกและพั
ฒนางานพระพุ
ทธรู
ปต่
อ
ในช่
วงแรกยั
งใช้
แสงไฟส่
องเพื่
อให้
งานดู
มี
มิ
ติ
ชั
ดขึ้
น แต่
ต่
อมาก็
ต่
อมาค้
นพบสี
เมทั
ลลิ
กที่
มี
คุ
ณสมบั
ติ
สะท้
อนแสง รวมถึ
งการย่
อขนาดลง
จนกระทั่
งลงตั
วเป็
นแบบที่
เห็
นแบบในปั
จจุ
บั
น
ซึ่
งนอกจากพระพุ
ทธรู
ปศิ
ลปะหิ
นทรายแบบ
สามมิ
ติ
แล้
ว ในปั
จจุ
บั
นยั
งพั
ฒนาต่
อยอดไปสู
่
การท�
ำรู
ปเคารพของศาสนาอื่
น ตามกระแสการ
เรี
ยกร้
องของต่
างประเทศ ไม่
ว่
าจะเป็
นพระเยซู
พระแม่
มารี
พระพิ
ฆเนศ หรื
อภาพศิ
ลปะอื่
นๆ
เมื่
อศิ
ลปะแห่
งความเชื่
อ และความ
อั
ศจรรย์
ของวิ
ทยาศาสตร์
มาพบกั
น บวกกั
บ
การประยุ
กต์
สิ่
งที่
มี
อยู
่
เดิ
มด้
วยวิ
ธี
การที่
สร้
างสรรค์
ผลลั
พธ์
ที่
ได้
ย่
อมน่
าสนใจและประสบความส�
ำเร็
จ
/
watch?v=Mg7-_Gt5Pr4&app=desktop
อ้
างอิ
ง
/
iBizchannel/ViewNews.aspx?NewsID
=9530000112368