Read me 21 - page 38

38
แล้ วกลุ่ มคนที่เกิ ดในยุ คก่อนเขาก็ ไม่ได้ เล่นโซเชี ยล
มีเดีย แต่ทำ�ไมจึงอยู่ในยุคสมัยนี้ได้ โดยที่ไม่ต้องการมัน
อยู่ได้ อยู่แล้ ว เพราะว่าเขาก็มี ตัวตนในแง่อื่น เขาอาจจะมี
ชมรมไทเก๊กที่สวนลุมฯ ตอนเช้า มีชมรมลีลาศทุกวันศุ กร์ มีโต๊ะ
แชร์ไปกินกั บเพื่อนในวัยเรียนทุ กคนมีตัวตนหรือมี โลกให้เข้าไป
สร้าง เพี ยงแต่คนยุคนี้ มีเทคโนโลยีเข้ ามา จึงใช้วิธีนี้ ในการสร้าง
ตัวตน เช่นเดียวกับคนที่แอนตี้ เทคโนโลยี ชอบสวนกระแสก็จะ
บอกว่า ฉันจะหายไปจากเฟซบุ๊ กประมาณสองเดือน เพราะฉั น
คิดว่าเฟซบุ๊กมันไม่คูลการหายไปจากเฟซบุ๊กมันคูลออกไปสร้าง
บ้านดิ น ไปปลูกผั กออร์แกนิก ผ่ านไปสองเดือนก็อัพรูปลง
อินสตาแกรม เห็นไหมว่าฉันหายไปสร้างตั วตนแบบใหม่ เห็น
ไหมบ้านดินที่ฉันสร้างกับมือ ผักออร์แกนิกที่ฉันปลูกกับมือ หรือ
ฉันอาจจะหายไปจากโซเชียลมีเดียตลอดกาล แต่ฉันจะไปเขียน
“ทุกครั้ งที่มีสิ ่งใหม่ๆ
เข้ามาเปลี ่ยนแปลงเรา
เราต้องตั้ งคำ�ถามกับมัน
ไม่ใช่ แค่ว่า
เราจะใช้ มันอย่างไร”
พ็อกเกตบุ๊ กเล่ มใหม่ ว่าฉันมาแสวงหาความจริงแท้ของชีวิตด้วย
การสร้างบ้านดิน ปลูกผักออร์แกนิก แล้วก็เอาต้นฉบับไปเสนอ
ส�ำนักพิมพ์ พอน�ำมาวางขาย เพื่อนฉันอีกนับร้อยนับพันคนที่เฝ้า
สงสัยว่าฉันหายไปท�ำอะไร เขาก็จะเห็นพ็ อกเก็ตบุ๊กเล่มนี้ แล้ว
พ็อกเกตบุ๊ กเล่มนี้คืออะไร มันก็คือสิ่งเดิมห้าพันปีผ่านมามนุษย์ก็
มีแค่นี้
ในหนั งสือ ชายหนุ่มผู ้ก้มลงถ่ายภาพเท้าตัวเอง มี บท
หนึ่งที่คุณเขียนถึงช่วงที่หายไปจากโซเชียลมีเดีย 15 วัน
ประสบการณ์ ตรงนั้นบอกอะไรคุณบ้าง
โลกมันเคลื่อนไปสู่ สิ่งใหม่แล้ว การที่ เราไม่ใช้ก็ไม่ ได้แล้ว นั่น
แหละคือบทเรียน คือทุกคนเขาไปกั นหมดแล้ว เราจะมาใช้ชีวิต
อยู่ อย่างนี้เหรอแต่ประเด็นไม่ได้อยู่ ที่การDigital Diet แต่ประเด็น