Read me 15 - page 39

| November-December 2012 39
ความสวย ณ ขณะปัจจุบัน
“ในสังคมไทย เราเป็นสังคมที่ตามคนอื่น
คนอื่ นชอบอ ะ ไ รคน ไ ทยก็ จ ะ ตามหมด
เรื่ องความสวยความงาม คุ ณก็ ตามเขา
ที่เกาหลีเป็ นยังไง ที่ญี่ปุ่ นเป็นยังไง ที่อเมริกา
เป็นยังไง คนอื่นกำ�ลังฮิตอะไรคุณตามเขาเลย
นี่ เป็ นแฟช่ั นของคนไทย เพรา ะฉะนั้ น
ความสวยแบบนี้ จึงเป็ นอะไรที่ ไม่ยั่ งยืน
เป็นความสวยที่ปุ๊ปเดียวปั๊ปเดียวแล้วก็หมด”
“ผมว่าความสวยมันเป็นแฟชั่น มั นตาม
กันไป แล้วก็มีเวลาของความสวย อย่างเช่น
แต่ก่อนนี้ ในเมืองไทยถ้าจะดูผู้หญิงสวย ต้ อง
เป็นผู้หญิ งที่อวบอ้วน ถ้าเป็ นนู้ดต้ องมีพุง
หน้ าท้องต้องมีลอนเป็นชั้นๆ หรืออย่างสมัย
อิมเพรสชันนิสม์ ช่ วงปี 1800 ภาพเขียนส่วน
ใหญ่โดยเฉพาะภาพเขียนที่มี ชื่อเสียง ผู้หญิง
ที่ เป็นแบบอยู่ ในภาพก็มั กจะเป็นคนที่ เจ้า
เนื้อ จนมากระทั่งในยุค 1960 ศตวรรษที่ 20
ผอมแล้ว มีนางแบบคนหนึ่ งที่มี ชื่อเสียงมาก
ในยุคนัั้นชื่อ ทวิ กกี้ (Twiggi) เป็นนางแบบ
ที่ผอมมาก ทวิกกี้ คือ คนสร้ างภาพลักษณ์
ความผอมให้คนเห็นว่านี่ คือที่สุดของนางแบบ
นางแบบต้องเป็นแบบนี้มั นก็ติดภาพนั้นมา
จนถึงปัจจุบัน”
เมื่อคนคนหนึ ่ งคิดว่าตัวเองเป็นคน ‘ไม่สวย’
“เราต้องรู้จักตัวเอง ทุกคนถ้ารู้จักตัวเอง
ตั้งแต่หั วจรดเท้าเนี่ย รับรองเลยคุณไม่ คิด
เปลี่ยนแปลง แต่นี่เป็นเพราะคุ ณไม่รู้จักตัว
เอง พอคุณเป็นตัวของตัวเองปุ๊ป คุณมีความ
มั่นใจแล้ ว คุณจะไปในรูปแบบไหนก็ได้ คุณ
จะไปยืนคู่กับคนสวยคุณก็ ไม่ต้องไปเคอะเขิน
เพราะคุณมั่นใจในตัวเอง ว่าที่ฉันเป็นอยู่อย่าง
นี้สุดยอดแล้ว ดีที่ สุดแล้วที่ได้มาขนาดนี้”
“ถ้าคิ ดว่ าตัวเองเป็ นคนไม่ สวย ต้อง
คิดถึงเรื่องธรรมชาติ ถ้าคุณคิ ดว่าธรรมชาติ
คือของสวย ทุกอย่างสวยหมด ใบไม้ทุกใบมี
ความแตกต่าง แต่ใบไม้สวยเหมื อนกันหมด
จะใบเล็กใบใหญ่ใบยาวใบเรียว...สวยเท่ากัน
ทำ �ไมคนไม่เป็ นธรรมชาติล่ะ เป็นอย่างที่ ตัว
เองเป็น ถ้าคุณเป็นอย่างที่ตัวเองเป็นปุ๊ปคุณ
สวยเลย”
‘สวย - งาม’ ตาม ธรรมชาติ
“เราต้องไม่ฝืนธรรมชาติ พยายามอยู่กับ
ธรรมชาติให้ มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ คือ เรา
อยู่ไม่ได้ทั้งหมดหรอกครั บ แต่ถ้าเราอยู่ กับ
ธรรมชาติได้มากเท่าไหร่เราก็จะมีความสุ ขได้
มากเท่านั้น ธรรมชาติเขาสร้ างไว้ดีอยู่แล้ว
ง่ายๆ เลย ถ้าคุณไม่ ตัดไม้ ทำ�ลายป่า น้ำ�จะท่วม
บ้านคุ ณมั้ย คุณก็รู้อยู่ แล้ว แต่คุณก็ยังฝืน”
“ธรรมชาติสำ �คัญกั บเราที่สุดแล้ วใน
ความเป็นคน คือ คนก็เป็นสัตว์ชนิดหนึ่ งใน
โลก เพียงแต่ มันมีมั นสมองที่ดีกว่าสัตว์ทั่ วๆ
ไปเท่านั้น คนสามารถคิดได้ แต่สัตว์คิดไม่ได้
เขาก็ทำ�ไปตามธรรมชาติของเขา แต่ พอคน
คิดเป็นปุ๊ป ดัดจริตเลย เอาชนะธรรมชาติ
ทั นที ตอนนี้ มนุษย์จะสูญสลายจะตายกั น
เพราะไปฝืนธรรมชาติ น้ำ�มาคุณกั้ นน้ำ� น้ำ�กั้น
ไม่ได้ น้ำ�เป็นของธรรมชาติต้องปล่อยให้ไหล
ครับ ลมพัด คุ ณห้ามลมพัดได้ หรือ คุณห้าม
ไม่ได้ แต่คุณต้องอยู่กับลมพัด คุณต้ องอยู่กับ
น้ำ� คุณต้ องทำ�ให้ตัวคุณอยู่กับธรรมชาติให้ได้
เพราะทุกอย่างเป็นธรรมชาติ ”
“แต่เรากลั บขมขื่นธรรมชาติ ทุกอย่ าง
เราจะเอาชนะธรรมชาติ ก็เหมื อนมนุษย์ที่ ไม่
สวยก็อยากจะสวย โดยที่ไปเชื่อว่า คนอย่าง
นี้สวย คนอย่างนั้นสวย มีคนกำ�หนดคุณนะ
ต้องเป็ นแบบนั้นต้ องเป็นแบบนี้ ถึงจะสวย
มีคนกำ�หนดให้คุณ แล้วคุณก็ ไปเชื่อเขา ไปทำ�
ตามเขาคุณต้องหนีจากตรงนั้ นให้ได้ ถ้ าคุณ
พ้นจากตรงนั้นได้คุณก็จะไม่มีปัญหา”
สื่อ กำ�หนด ความสวย?
“สื่อจะมีอิทธิ พลได้หรื อไม่ได้ ขึ้ นอยู่กับ
ตัวคุณเอง คือ คุณต้องรู้เท่ าทันสื่อ ถ้าคุณ
เป็นตัวของคุณเองเมื่อไหร่คุณก็ จะเท่าทันสื่อ
คุณก็ จะไม่เชื่ อสื่อ หรือถ้ าจะเชื่อคุณก็ ต้องคิด
ไตร่ตรอง เรื่องความสวยขอแค่คุณมั่นใจใน
ตัวเอง ต่อให้สื่อมาประโคมยั งไงคุณก็ จะไม่
เชื่อเขา เพราะคุณเชื่อในตัวเอง แต่ถ้าคุณหมด
ความมั่นใจ สื่อบอกอะไรมาคุณก็เชื่อสื่อหมด
คุณก็ ตามกันไปหมด”
“คุณต้องมีความเชื่อมั่นในตัวคุณ ถ้าคุณ
เอาตัวเองไปเทียบกับคนอื่นก็เท่ากั บว่าคุ ณ
ไม่เชื่อมั่นในตัวเองแล้ว คุ ณไม่สามารถไปยื น
ข้างๆ คนหล่ อได้ เพราะคุณกลัวความหล่อ
ของเขา เกิดนั้น เกิดนี่ จิ ตตกไปหมด เพราะ
คุณคิดว่าตัวเองไม่สวย คุณก็ รีบเลย...ไปทำ�
แก้ม เพื่อที่ จะให้เหมือนคนนั้น คนนี้ อย่างนี้
ดีหรื อ มันเป็นแค่เรื่องแฟชัน สื่อนั้นนำ�ไปสื่อ
นี้นำ�ไป ตอนนี้คนไทยก็ไปเกาหลีหมด นางเอก
เกาหลีหน้ าเหมือนกันหมดเลย แยกไม่ออก
ว่าใครเป็นใคร”
สื่อ กระแส ศัลยกรรม...
“ผมไม่เห็นด้วยกับการศั ลยกรรมใดๆ ทั้งสิ้น
เพราะว่ ามันผิ ดธรรมชาติ การที่คุ ณไป
บิดเบือนธรรมชาติ คุณก็ดัดจริ ต หนึ่งคุณ
ดัดจริตแล้ ว สองคุ ณไม่ ยอมรับความจริง
ทำ�ไมเกิ ดเป็นมนุษย์ แล้วไม่ยอมรั บความจริง
เราเกิดมาจากพ่อจากแม่เรา เราเกิดมาเป็น
อย่างนี้ เราก็ควรจะเป็ นอย่างนี้ ทำ �ไมเราต้อง
ให้อย่ างอื่นมาเป็นตัวกำ�หนดเรา”
“คนสวยไม่ควรไปทำ� คนไม่สวยก็ไม่ควร
ไปทำ� ควรจะเป็นตัวของตัวเอง ได้มายั งไงก็
ให้มั นเป็นอย่างนั้น ไม่เห็นต้ องไปสร้างสิ่งที่
มันแปลกปลอมเข้ามาในตั วเอง เราไม่ควร
เปลี่ยนแปลงทุกอวัยวะ ยกเว้นคุณปากแหว่ง
หูวิ่น แขนด้วน คุณก็อาจจะต้ องใส่นั้นเพิ่มนี้
เพื่อให้คุณทำ�งานได้” (สมมติ ) “ถ้าโลกนี้มี คน
หน้าตาเหมื อนกันหมดเลย ...น่าเบื่อตายเลย
คุณ น่าเบื่อมาก น่าเศร้าเพราะว่ามั นไม่มีความ
แตกต่าง เราจะไปรู้ได้ยังไงว่าคนไหนสวย คน
ไหนขี้เหร่ แต่เรื่องพวกนี้มันก็เป็นเรื่องที่เราไป
กำ�หนดมันเองอีก ที่จริ งทุกคนก็มี ความสวย
ในแบบที่เป็นตัวเอง”
ความสวย ไม่สู้ ‘ความงาม’
“ผมว่าความสวยสู้ความงามไม่ ได้ สวย
มันปุ๊ปเดียว คุ ณเห็นว่ าสวยเดี๋ยวมั นก็ผ่าน
ไปแล้ว แต่ ว่าถ้ างามคุณต้องเห็ นแล้วคิดดู
ว่ามันงามยังไง มีรายละเอียด แต่สวยมั นแค่
ผ่านเฉยๆ ส่วนความงามต้องมีหลายอย่าง
ประกอบเข้าด้ วยกัน กิริยา มารยาท การเดิน
แค่เดินงาม มันก็งามแล้ ว เวลาพูด คุณพูด
งาม ก็ถือเป็นความงามชนิดหนึ่ง งามไม่ ใช่
แค่เรื่องของหน้าตาอย่างเดียว คุณจะหน้าตา
เป็นอย่างไรก็ได้แต่ คุณก็ สามารถงามได้ด้วย”
“ภายในภายนอกต้ องไปด้วยกั น เช่น
กิริยาอาการภายนอกของคุณ มั นก็ต้องไป
ตามจิ ตใจภายในของคุณ ไม่ใช่ ดัดจริตทำ �
เวลาคุณเดิน คุณก็ต้องเดิ นโดยปกติ เดินด้วย
ท่ าทางธรรมชาติตามปกติ ของคุณ ถ้าคุ ณ
คิดได้แบบนี้ เราก็จะเกิดความคิดแล้วว่า เออ
เราก็ใช่ ได้แล้ว ไม่ รู้นะ ผมคิดว่าเราก็แค่เป็ น
ธรรมชาติตามที่เราเป็นอยู่ ธรรมชาติดีที่ สุด
ไม่มีอะไรเกินนี้ เลย”