ปฏิ
เสธไม่
ได้
ว่
าขณะนี้
เฟซบุ
๊
คเป็
นสื่
อออนไลน์
ที่
ก�
ำลั
งได้
ความนิ
ยมอย่
างแพร่
หลายในทุ
กกลุ
่
มของ
เมื
องไทย ข้
อมู
ลจาก Zocial Rank เว็
บไซต์
ที่
เก็
บข้
อ
มู
ลสถิ
ติ
ต่
างๆ เกี่
ยวกั
บ โซเชี่
ยลเน็
ตเวิ
ร์
กของเมื่
อปี
ที่
แล้
ว (2013) เปิ
ดเผยว่
า ประเทศไทยที่
มี
ประชากร
ประมาณ 66 ล้
านคน มี
ผู
้
ใช้
งานอิ
นเทอร์
เน็
ตถึ
ง
25 ล้
านคน ใช้
โซเชี
ยลเน็
ตเวิ
ร์
ก 18 ล้
านคน โดย
มี
ผู้
ใช้
Facebook คิ
ดเป็
น 85%, Twitter 10%
และ Instagram 5% และเฟซบุ
๊
คมี
ประโยชน์
ทั้
ง
ด้
านการติ
ดต่
อสื่
อสาร สร้
างปฏิ
สั
มพั
นธ์
ที่
ส�
ำคั
ญ
นั
กเรี
ยนมี
เลขทะเบี
ยนแทบทุ
กคนอยู่
แล้
ว จึ
งท�
ำให้
เกิ
ดการประยุ
กต์
ใช้
โซเชี่
ยล เน็
ตเวิ
ร์
ก เข้
ากั
บการ
เรี
ยนการสอน ไม่
ว่
าจะเป็
นการจั
ดกลุ
่
มเฉพาะ
รายวิ
ชา น�
ำเสนอสื่
อการสอนในรู
ปแบบบทความ
สื่
อมั
ลดิ
มี
เดี
ย จนถึ
งการอั
พโหลดการบ้
านส่
งทาง
เฟซบุ๊
ค หรื
อการแบ่
งปั
นผลงานแก่
สาธารณชน ซึ่
ง
เป็
นสื่
อที่
ท�
ำให้
ผู
้
สอนกั
บผู
้
เรี
ยนเข้
าถึ
งกั
นสะดวกขึ้
น
เกิ
ดการแลกเปลี่
ยนความรู
้
อย่
างทั่
วถึ
ง รวดเร็
ว ผ่
าน
การแสดงความคิ
ดเห็
น (comment) โดยไม่
ต้
อง
เสี
ยเวลา หรื
อค่
าใช้
จ่
าย ส่
งผลให้
การเรี
ยนรู้
เกิ
ดขึ้
น
ได้
ตลอดเวลา
โซเชี
ยลเน็
ตเวิ
ร์
ก
(Social Network)
22