Read me 4 - page 15

15
เมื่ อเดินออกมาจากศาลเจ้าแม่กวนอิม ให้ เลาะไปตามทางเดินเล็กๆ ทาง
ซ้ ายมืออีกประมาณห้ าสิบเมตร ก็จะพบ วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร อารามหลวง
อีกแห่งที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้ งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งมีพระราชประสงค์ให้
ประดิ ษฐานพระพุทธรู ปใหญ่ อยู่ริ มแม่ น้ำแบบเดี ยวกั บที่ วั ดพนัญเชิ ง จั งหวัด
พระนครศรี อยุธยา สถาปั ตยกรรมเป็นแบบไทยปนจีน โดยมี หลวงพ่ อโตเป็ น
พระประธาน ต่อมารั ชกาลที่ 4 พระราชทานนามใหม่ว่ า
พระพุ ทธไตรรัตนนายก แต่ ชาวบ้านเรี ยกกั นติดปากว่า
‘ซำปอกง’
หากใครที่มาเยี่ ยมชมย่านกุฎีจี นแห่งนี้แล้วไม่
ได้ ชิม ‘ขนมกุฎีจีน’ หรือ ‘ขนมฝรั่ง’ ก็เหมือนมาไม่ถึง
เพราะภายในวัดมีร้านค้าเล็ กๆ ที่นำขนมกุ ฎีจีนมาวาง
ขาย ซึ่ งต้นตำรั บของขนมชนิดนี้ ได้ มาจากชาว
โปรตุเกสที่มาตั้งถิ่นฐานอยู่ในย่ านกุฎีจีน
หลั งจากที่เดิ นชมบริเวณวัดกั ลยาณมิตรจนทั่วแล้ว ให้เดิ นทะลุออกไปทางด้ าน
หลั งวัดเพื่อออกไปสู่ถนนอรุ ณอมรินทร์ แล้วข้ ามถนนไปยังฝั่งตรงข้ าม จะเห็นซอยเล็ กๆ
ขนาดพอคนสองคนเดินสวนกั นได้ ภายในซอยนี้คือชุ มชนกุฎีขาวและเป็นที่ตั้งของ มัสยิ ด
บางหลวง มัสยิดทรงไทยแห่งเดี ยวในโลก อันเป็นศาสนสถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของมุสลิมใน
ชุ มชนแห่งนี้ จากประวัติศาสตร์มัสยิดบางหลวงสร้างโดยพ่ อค้ามุ สลิมที่ชื่ อว่า ‘โต๊ ะหยี’
ก่ ออิฐถือปูนด้วยสถาปัตยกรรมทรงไทย ทาสี ด้วยสีขาวทั้งหลั ง ซึ่งเป็นที่มาของชื่อชุ มชนกุฎี
ขาวแห่งนี้
นอกจากความงดงามของมัสยิ ดบางหลวงแล้ว วิ ถีชีวิ ตของผู้คนในชุมชนแห่งนี้ยัง
แฝงไปด้วยความเรียบง่ายทว่างดงาม ที่เพียงแค่ก้าวเท้าเข้าไปก็ ราวกับได้ หลีกหนีจากความ
วุ่ นวายภายนอกได้อย่ างชะงัดนั ก
หลั งจากที่ได้สัมผั สกับความหลากหลายทางความศรั ทธา
ของสถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจทั้ง 4 แห่ งนี้ เชื่อว่าทำให้ ทุกคน
ที่มาเยื อนได้ เห็นถึงความแตกต่างของความศรัทธาและ
วั ฒนธรรม ซึ่งไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการอยู่ร่ วมกันเลย ผู้คน
ต่ างอาศั ยอยู่ภายใต้ สั งคมเดี ยวกั นได้อย่ างแน่นแฟ้ น
ประหนึ่ งแม่ น้ำหลายสายที่ บรรจบเป็ นแม่น้ ำใหญ่สาย
เดียวกัน และยังไหลต่ อเนื่ องไปทั่วผื นแผ่นดินขวานทอง
แห่งนี้
วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร
มัสยิดบางหลวง (กุฎีขาว)