Read me 32 - page 16

เช็ คกระแส ทันเหตุการณ์
ในยุ คที่ ทุกอย่างรวดเร็วไปเสียหมด จนอายุของ
หลายๆ สิ่งหดสั้ นลงตามไปด้วย สมาร์ทโฟนก็เปลี่ยนกั น
อยู่ทุกปี แก็ดเจ็ตต่างๆ ก็อัพเดตกันทุกเดือน เสื้ อผ้าแฟชั่น
ก็ เปลี่ยนกันรายสัปดาห์ และข่าวที่อายุหดเหลื อเวลาเพียง
ไม่ กี่ชั่วโมง ด้วยเรื่องราวที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนอยู่บนหน้า
ฟี ดเราอย่างรวดเร็ว ซึ่งแน่นอนด้วยความเร็วขนาดนี้ ก็ยาก
ที่สิ่งพิมพ์จะตามทัน ดังที่เห็นได้ในปัจจุบันข่ าวที่ปรากฏอยู่
บนหน้ าสื่อสิ่ งพิมพ์หลายๆ เรื่ องก็เป็นกระแสในโซเซียล
มีเดียมาก่ อน ซึ่งนี้ถื อว่าเป็นโอกาสที่ ดีที่นักเขียนในยุคนี้
จะสามารถน� ำเสนอเรื่องราวได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที
ด้ วยการเขียนประเด็นที่จับกระแสสังคมในตอนนั้ น ย่อม
ได้ รับการตอบรั บที่ดีและทันท่ วงที เช่นเพจ ThaiPublica
ที่ให้ความรู ้วิเคราะห์ถึ งผลกระทบของนโยบาย ในขณะ
ที่เสนอร่ างเข้าสภา ให้ ประชาชนได้รับรู ้ผลกระทบต่อ
ชี วิตที่อาจเกิดขึ้ นหลังการผ่านร่างของนโยบายนั้นอย่าง
ทันท่วงที แต่ในความรวดเร็ วทันใจในการเขียนอาจต้อง
มีความระมัดระวัง ตรวจทานความถูกต้องข้ อมูลเป็ นเท่า
ตั วด้วยเช่นกัน
รู้จัก Web 1.0 กันไหม?
หากย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 กว่ าปีที่แล้ว ยุคสมั ย
ที่ facebook ยังเป็นเพียงสเปิร์มในหัวของมาร์ก ซักเคอร์
เบิร์ ก hi5 อาจยังไม่ ครบก�ำหนดคลอด เว็ บในยุคนั้นคนที่
เข้ามาเยี่ ยมชมก็ท�ำได้อย่ างมากแค่ไล่สายตาอ่านเท่านั้น
ไม่สามารถที่จะให้ความเห็นหรือแสดงความคิดใดๆ ลงไป
นั้นล่ะยุค Web 1.0 ยุคที่คนเขี ยนมีหน้าที่เขียนและคน
อ่านก็ท�ำได้ เพียงแค่อ่าน
แต่นี้คือยุค Web 2.0 ยุคที่เว็บไซต์พัฒนาขึ้นมา
อีกขั้น ให้ใครๆ ก็ได้ สามารถที่จะเขียน สามารถที่จะแบ่ง
ปันเรื่องราว แชร์ ประสบการณ์ หรือแม้กระทั่งการวิจารณ์
งานเขียนชิ้ นนั้นๆ ในทั นทีที่อ่าน ซึ่ งเป็นการท�ำลายการ
ผูกขาดสถานะของผู้เขียนและผู้อ่านลงไปโดยสิ้นเชิง
ดั งที่ได้กล่าวไว้แล้วว่ าเรานั้นพ้นยุ คสมัยของ Web
1.0 มาแล้ว การแสดงความคิดเห็นถือเป็นเรื่ องธรรมดา
สามัญพึงกระท� ำกันบนโลกโซเซียล ซึ่ งนั้นถื อได้ว่ าเป็น
ข้อดีส� ำหรับตั วผู้ผลิตผลงานเอง ทั้งยอดไลค์ ที่บอกถึง
ความความสนใจของผู้อ่ าน ทั้งคอมเมนต์ที่มาโต้แย้งใน
มุมมองที่ ต่างออกไปหรือมาให้ความถูกต้องของข้อมูลที่ตั ว
ผู้เขียนเองอาจพลาดไป หากเปรี ยบกับการท�ำงานในส�ำนัก
พิมพ์แล้ ว นั่นเท่ ากับว่าคนคนอ่านช่ วยกันตรวจสอบผล
งานตรวจทานความถูกต้องให้ตั วผู้เขี ยนด้วย อีกทั้งบางที
ยังสะท้อนให้เห็ นถึงมุมมองอี กด้านที่ แม้แต่ตั วผู้เขียนเอง
ก็คิ ดไม่ถึง ซึ่ งถือได้ว่ าเป็นการลับคมทางความคิดชั้ นดีที
เดียว ดีไม่ดีอาจได้เนื้อหาใหม่ที่เกิดจากการถกเถียงกันก็
เป็นได้ หากเปิดใจและยอมรับฟังความคิดเห็ นเพื่อพัฒนา
งานเขียนให้ดี ยิ่งขึ้นต่ อไป
16