Read me 32 - page 8

กลับมาความคิดที่ว่า เราเขี ยนหนังสือก็ต้องการเผยแพร่ออกไปมากที่สุด เลยไม่คิดว่าเรา
ควรปิดกั้น นอกจากการไปของบกับหน่วยงานราชการ ท�ำไมเราไม่ลองระดมทุนกับคนธรรมดาที่
อยากจะให้ตัวบทนี้ถูกเผยแพร่ แต่เราก็ไม่อยากเรียกเงินฟรี เราเลยผลิ ตหนังสือที่ระลึกตอบแทน
คุณลงทุนกับเราเพื่อป้ อนโอกาสให้กับคนอื่นๆ สามารถเข้ าถึงตัวบทในรูปดิจิทัลได้ เลยเป็นที่ มา
ของค�ำว่าไม่จ�ำกัด
ตอนท� ำอะไรใหม่ๆ โอกาสล้มเหลวก็มี จริงๆ ถ้าเล่มต่อไปก็คงไม่มั่นใจอยู่ ดี เพราะเราดี ล
กับผู้อ่ านซึ่งคือใครก็ไม่รู้ส�ำหรับเรา เราก็คือใครไม่รู้ส�ำหรับเขา เราไม่ใช่คนที่มีต้นทุนทางสังคม
สูงมาก ไม่ใช่เซเลปที่เขาจะมาร่วมกั บเราด้วย แต่เรามั่นใจว่าเราสามารถท� ำได้ เราตอบแทนได้
มั่นใจว่าส�ำเร็จ ผลตอบแทนมันยิ่งกว่าคุ้ ม บางคนรอทั้งชีวิต บางคนอีดิตหลายปี ยังไม่เสร็จ แต่
ตอนที่ท�ำใช้เวลาแค่ ปีเดียวในการผลิต เพราะมันเปลี่ยนรู ปแบบ เปลี่ยนระบบ จากที่เราต้องรอ
ผู้ใจกว้าง เราไม่ต้องรอ และเป็นผู้อ่านก�ำหนดเองด้วยซ�้ ำว่าอยากท�ำหรือเปล่า โอเคแล้ว คุ้มแน่นอน
สั้นๆ ง่ายๆ อย่าประเมินผู้อ่านต�่ ำกว่าความเป็นจริง เราได้พิสูจน์แล้วว่ายังมีผู้อ่านที่ มีใจ
เผื่อแผ่ไปยังคนอื่ นด้วย เราขอแค่หลักร้อยหลักพันนี่แหละ ที่จะส่งผลให้มีงานเผยแพร่ออนไลน์ออกไป
แค่นี้เอง คนเริ่มต้นอาจไม่เยอะ แต่ ผลกว้าง ส�ำหรับเราคิดว่าไม่น่าสิ้นหวั งอย่างที่หลายคนสิ้นหวั ง
การอ่านเหมือนการถอดรหัสอะไรสักอย่าง ถ้าเราไม่อ่านให้ซับซ้อน เอาแค่ความบันเทิง
ก็จบ แต่ถ้าคิดว่ามันมีรหัสบางอย่างที่ท�ำให้เปลี่ยนแปลงชีวิตเราให้ไม่เหมือนเดิม เราว่ามันคือฟังก์ชั่น
หนังสือที่ท�ำให้เรามองโลกซับซ้อนขึ้นอย่างที่ไม่เคยมอง จะจริงเท็จหรือคิดไปเอง หนังสือก็ ฝึก
ให้เราตีความ
แต่หนังสือในโครงการ ‘วรรณกรรมไม่ จ�ำกัด’
ก็เรียกได้ว่าเป็นหนังสื อแจกฟรีเหมือนกันหรือเปล่า
อะไรท�ำให้มั่นใจได้ ขนาดว่าจะมีคนร่วมเส้นทางฝันกับเราแน่ๆ
และที่ผ่านมาทั้งหมดสองเล่ม คุ้มไหมกั บสิ่งที่ท� ำมาตลอดสองปีที่ก่อตั้งโครงการ
ท� ำมาทั้งหมดสองเล่มนี้ให้บทเรี ยนอะไรกับเราบ้าง
คิดว่าหนังสื อที่เอามาท�ำจะเป็ นหนังสืออ่านยากส�ำหรับผู้ อ่านทั่ วไปหรือเปล่า
8