Read me 7 - page 6

เพราะโลกคื
อ...ผื
นนํ้
4
อี
กหนึ่
งอาการแทรกซ้
อนคื
‘โลกกรดไหลย้
อน’
ร่
างกาย
คนเรามี
นํ้
าเป็
นส่
วนประกอบหลั
ก เช่
นเดี
ยวกั
นกั
บโลกซึ่
งมี
พื้
นที่
ที่
เป็
นนํ้
าถึ
ง 71 เปอร์
เซ็
นต์
และยั
งมี
พื้
นที่
ที่
เป็
นนํ้
าแข็
งซึ่
งกำ
�ลั
ละลายตั
วเองอย่
างช้
าๆ มาเพิ่
มปริ
มาณนํ้
าบนโลกให้
เราได้
มี
ไว้
เล่
นสงกรานต์
กั
นเพิ่
มอี
ก ใต้
พื้
นนํ้
าเหล่
านั้
นมี
เปลื
อกโลกที่
คอย
รองรั
บนํ้
าอยู่
เมื่
อแผ่
นดิ
นใต้
นํ้
าไหว โลกเกิ
ดอาการสั่
นขึ้
นมาจึ
ส่
งผลต่
อนํ้
าที่
อยู่
บนเปลื
อกโลกบริ
เวณนั้
นด้
วย ถ้
าหากโลก
สั่
นเบาๆ คงไม่
น่
าห่
วงมาก แต่
หากโลกสั่
นมากหรื
อเกิ
ดอาการที่
ชาวบ้
านเรี
ยกว่
า ‘เจ้
าเข้
า’ ขึ้
นมาแล้
วล่
ะก็
อาการกรดไหลย้
อน
หรื
‘สึ
นามิ
ก็
จะตามมาติ
ดๆ
สึ
นามิ
คื
อปรากฏการณ์
ที
คลื
นในทะเลเคลื
อนที
เข้
าหา
ฝั
ง โดยที
ขนาดของคลื
นอาจมี
ความสู
งถึ
ง 30 เมตร และ
เคลื
อนที
ด้
วยความเร็
ว 700 – 800 กิ
โลเมตรต่
อชั
วโมง เมื
ปะทะเข้
าหาฝั
งจะทำ
�ให้
สิ
งของหรื
อสิ
งก่
อสร้
างที
ไม่
คงทน
แข็
งแรงถู
กพั
ดพาไปตามกระแสนํ
า เช่
นที
เคยเกิ
ดขึ
นใน
ภาคใต้
ของบ้
านเราเมื
อปี
พ.ศ. 2547 ในคราวนั
นศู
นย์
กลาง
แผ่
นดิ
นไหวอยู
ที
ประเทศอิ
นโดนี
เซี
ย บริ
เวณเกาะสุ
มาตรา
มี
ความรุ
นแรงถึ
ง 9-12 ริ
กเตอร์
เป็
นระดั
บที
นั
กวิ
ชาการให้
คำ
�จำ
�กั
ดความว่
าเป็
น ‘มหาวิ
บั
ต’ เหตุ
การณ์
ครั
งนั
นสร้
าง
ความสะเทื
อนใจให้
แก่
คนทั
งโลก เพราะผู
คนล้
มตายเกิ
หนึ
งแสนคน สิ
งก่
อสร้
างพั
งทลายยั
บเยิ
น และที
สำ
�คั
ญคื
อการ
ท่
องเที
ยวซึ
งเป็
นรายได้
หลั
กของประชาชนในแถบนั
น ต้
องหยุ
ชะงั
กลงและกว่
าจะฟื
นตั
วได้
ใหม่
ก็
ใช้
เวลานานร่
วมปี
นอกจาก
‘เจ้
าเข้
า’ แล้
ว ยั
งมี
อี
กหลายสาเหตุ
ที
จะทำ
�ให้
โลกเกิ
ดอาการกรด
ไหลย้
อน เช่
น การที
ภู
เขาไฟที
อยู
ใต้
ทะเลระเบิ
ด หรื
อแผ่
นดิ
ขนาดใหญ่
ถล่
มลงไปในทะเล หรื
ออุ
กกาบาตขนาดใหญ่
จาก
นอกโลกตกลงมาในทะเล เป็
นต้
อาการกรดไหลย้
อนครั้
งล่
าสุ
ดของโลกเกิ
ดขึ้
นที่
ประเทศญี่
ปุ่
เมื่
อเดื
อนมี
นาคมที่
ผ่
านมา จากเหตุ
การณ์
แผ่
นดิ
นไหวที่
มี
ความ
รุ
นแรง 8.9 ริ
กเตอร์
ซึ่
งรุ
นแรงใกล้
เคี
ยงกั
บที่
เคยเกิ
ดขึ้
นในบ้
าน
เราแต่
ด้
วยการเตรี
ยมความพร้
อมรั
บมื
อที่
ดี
กว่
าจึ
งเกิ
ดการสู
เสี
ยน้
อยกว่
ามาก อาการกรดไหลย้
อนของโลกในครั้
งนี้
ได้
สร้
าง
อี
กหนึ่
งเรื่
องราวที่
น่
ากลั
วและอั
นตรายสำ
�หรั
บมนุ
ษย์
นั่
นคื
เหตุ
การณ์
โรงไฟฟ้
านิ
วเคลี
ยร์
ระเบิ
ด ส่
งผลให้
สารกั
มมั
นตภาพรั
งสี
ไหลรั่
วออกมาปนเปื้
อนในอากาศและนํ้
า ซึ่
งอั
นตรายของสาร
กั
มมั
นตภาพรั
งสี
ก็
มี
หลากหลายแพ็
กเกจให้
ได้
เลื
อกสรรกั
แพ็
คเกจแรก ‘แบบสบายๆ’ เมื่
อรั
บสารเข้
าสู่
ร่
างกายก็
จะเกิ
ดเป็
บาดแผลตามผิ
วหนั
งเพี
ยงเล็
กน้
อย แพ็
กเกจที่
สอง ‘แบบสะสม
แต้
ม’ คื
อรั
บรั
งสี
เพี
ยงวั
นละนิ
ดแต่
สะสมเป็
นระยะเวลานานก็
จะ
สามารถแลกมะเร็
งเป็
นของสมนาคุ
ณได้
แพ็
กเกจสุ
ดท้
าย ภาษา
วั
ยรุ่
นเรี
ยกว่
า ‘แบบจั
ดเต็
ม’ คื
อได้
รั
บรั
งสี
แบบรุ
นแรงจนทำ
�ให้
เสี
ยชี
วิ
ตได้
ในทั
นที
แต่
ไม่
ว่
าเราจะเลื
อกแพ็
กเกจไหน การที่
สาร
ชนิ
ดนี้
เข้
าสู่
ร่
างกายของเราก็
เป็
นอั
นตรายแก่
ร่
างกายอยู่
ดี
เมื่
อไม่
ได้
รั
บการรั
กษาอย่
างถู
กวิ
ธี
อาการที่
แสดงออกต่
อมา
คื
‘โลกตั
วซี
ดขาว’
หรื
อที่
รู้
จั
กกั
นดี
ว่
‘ปรากฏการณ์
ปะการั
ฟอกขาว’
คื
อการที่
ปะการั
งซึ่
งปกติ
แล้
วจะอวดสี
สั
นสดสวยอยู่
ใต้
ท้
องทะเลลึ
กมี
สี
ซี
ดจางลงจนถึ
งขั้
นเป็
นสี
ขาว สี
สั
นของปะการั
เกิ
ดขึ้
นมาจากสาหร่
ายซู
แซนเทลลี
และสิ่
งมี
ชี
วิ
ตต่
างๆ ที่
อาศั
ยอยู่
ในปะการั
ง ซึ่
งมี
หน้
าที่
ปกป้
องเนื้
อเยื่
อของปะการั
งไม่
ให้
ถู
กแสง
อาทิ
ตย์
ทำ
�ร้
ายและยั
งใช้
ในการสั
งเคราะห์
แสงสร้
างอาหารให้
กั
ตั
วเองและปะการั
งนั้
นๆ อาการนี้
เกิ
ดขึ้
นได้
จากหลายสาเหตุ
เช่
อุ
ณหภู
มิ
ของนํ้
าทะเลเพิ่
มสู
งขึ้
นหรื
อลดตํ่
าลง ความเค็
มของนํ้
ทะเลลดลงเนื่
องจากนํ้
าจื
ดเข้
าไปผสมมากขึ้
น รั
งสี
จากดวงอาทิ
ตย์
หรื
อการติ
ดเชื้
อแบคที
เรี
ย เป็
นต้
น ดั
งนั้
นหากปะการั
งถู
กทำ
�ลาย
ลงไป สิ่
งมี
ชี
วิ
ตที่
อาศั
ยอยู่
ในปะการั
งนั
บแสนล้
านชี
วิ
ตก็
จะตาย
ลงไปด้
วย ทำ
�ให้
ระบบนิ
เวศทางทะเลเลวร้
ายจนถึ
งขั้
นวิ
กฤติ
ได้
นั
กวิ
ทยาศาสตร์
ได้
สั
งเกตเห็
นความผิ
ดปกติ
ของแนวปะการั
มาตั้
งแต่
ปี
พ.ศ. 2527 โดยพบครั้
งแรกบริ
เวณมหาสมุ
ทรแปซิ
ฟิ
และเริ่
มแผ่
ขยายเป็
นวงกว้
างมากขึ้
นในบริ
เวณทะเลอ่
าวไทย ซึ่
เมื่
อวั
นที่
20 มกราคม 2554 กรมอุ
ทยานแห่
งชาติ
สั
ตว์
ป่
าและ
พั
นธุ์
พื
ช ได้
ประกาศปิ
ดอุ
ทยานแห่
งชาติ
ทางทะเลฝั่
งอ่
าวไทยและ
อั
นดามั
น 7 แห่
งเฉพาะบริ
เวณที่
เกิ
ดปรากฏการณ์
ปะการั
งฟอก
ขาวเกิ
น 80 เปอร์
เซ็
นต์
ของพื้
นที่
ประกอบด้
วยเกาะที่
ขึ้
นชื่
อของ
ไทยมากมาย เช่
น อุ
ทยานแห่
งชาติ
หมู่
เกาะสิ
มิ
ลั
น อุ
ทยานแห่
ชาติ
หมู่
เกาะสุ
ริ
นทร์
อุ
ทยานแห่
งชาติ
หาดนพรั
ตน์
ธารา-หมู่
เกาะ
พี
พี
อุ
ทยานแห่
งชาติ
หาดเจ้
าไหม อุ
ทยานแห่
งชาติ
หมู่
เกาะเภตรา
อุ
ทยานแห่
งชาติ
ตะรุ
เตา อุ
ทยานแห่
งชาติ
หมู่
เกาะชุ
มพร ซึ่
งล้
วน
เป็
นแหล่
งท่
องเที่
ยวทางธรรมชาติ
ที่
สร้
างรายได้
เข้
าประเทศไทย
อย่
างมากมาย
1,2,3,4,5 7,8,9,10,11,12,13,14,15,16,...37