Read me 7 - page 7

เพราะโลกคื
อ...ท้
องฟ้
5
อาการป่
วยครั้
งใหม่
ล่
าสุ
ดของโลกที่
เกิ
ดขึ้
นคื
อ ‘โลกภู
มิ
แพ้
เมื่
อมี
สิ่
งผิ
ดปกติ
แปลกปลอมเข้
ามากระทบ ร่
างกายจะมี
การ
ตอบสนองต่
อสิ่
งแปลกปลอมในลั
กษณะต่
างๆ เช่
น คั
ดจมู
นํ้
มู
กไหล ฯลฯ ซึ่
งสาเหตุ
ของการเกิ
ดโรคนี้
คื
อการที่
ลมร้
อน
และลมเย็
นมาเจอกั
น และก่
อตั
วให้
เกิ
ดลมหมุ
น และเมื่
ลมหมุ
นในระดั
บที่
ไม่
คงที่
ทำ
�ให้
ปลายข้
างหนึ่
งลงมาสั
มผั
ที่
พื้
นก่
อให้
เกิ
ดทอร์
นาโด พายุ
ชนิ
ดนี้
สามารถพั
ดพาทุ
กสิ่
ขึ้
นไปหมุ
นในอากาศได้
ตั้
งแต่
หลั
งคาบ้
านไปจนถึ
งตั
วบ้
าน
ทั้
งหลั
ง ระดั
บความรุ
นแรงของพายุ
จะแบ่
งออกเป็
น 6 ระดั
คื
อ ตั้
งแต่
F0 - F5 ตามระดั
บความเร็
วลม จากสาเหตุ
นี้
ทำ
�ให้
เมื่
อวั
นที่
18 เมษายน พ.ศ. 2554 ร่
างกายของโลก
ตอบสนองโดยการ
‘จาม’
ออกมาเป็
นพายุ
ทอร์
นาโดถึ
ง 241
ลู
กซึ่
งเกิ
ดจากอิ
ทธิ
พลของพายุ
เพี
ยงลู
กเดี
ยวพั
ดกระจาย
ทั่
ว 14 รั
ฐในภาคตะวั
นออกเฉี
ยงใต้
ของสหรั
ฐอเมริ
กาใน
ระยะเวลาเพี
ยง 3 วั
น โดยพายุ
ได้
พั
ดทำ
�ลายบ้
านเรื
อนจน
เสี
ยหาย และคร่
าชี
วิ
ตผู้
คนมากกว่
า 40 คน หากพายุ
ชนิ
ดนี้
เกิ
ดขึ้
นในประเทศไทย จะถู
กคนไทยเรี
ยกว่
‘พายุ
งวงช้
าง’
หรื
‘พายุ
นาคเล่
นนํ้
า’
โดยส่
วนใหญ่
จะเกิ
ดขึ้
นบริ
เวณแอ่
นํ้
อาจ
เป็
นทะเล หรื
ออ่
างเก็
นํ้
โดยจะมี
ลั
กษณะคล้
ายท่
นํ้
เชื่
อมต่
จากบริ
เวณผิ
นํ้
กั
บท้
องฟ้
า ท่
นํ้
นั้
นจะหมุ
นเป็
นวงกลมด้
วย
ความเร็
วของลมพายุ
ที่
พั
ด พายุ
ชนิ
ดนี้
เคยเกิ
ดขึ้
นที่
บึ
งบอระเพ็
ในจั
งหวั
ดนครสวรรค์
แต่
ไม่
ก่
อให้
เกิ
ดความเสี
ยหายใดๆ เหมื
อน
อย่
างประเทศสหรั
ฐอเมริ
กา
จากอาการแรกจนถึ
งอาการสุ
ดท้
าย ดู
เหมื
อนทุ
กอย่
างเป็
ฝี
มื
อของ
‘ภั
ยธรรมชาติ
สาเหตุ
เกิ
ดตามชื่
อเรี
ยก คื
อเกิ
ดขึ้
เองตามธรรมชาติ
แต่
เพราะชื่
อเรี
ยกนั่
นเองที่
ทำ
�ให้
คนเราหลง
ประเด็
นโทษธรรมชาติ
ไปหมดทุ
กอย่
าง โดยลื
มคิ
ดไปว่
าถ้
ามนุ
ษย์
ไม่
ตั
ดต้
นไม้
ไม่
เห็
นแก่
ความสะดวกสบายของตนเองจนสร้
าง
สิ่
งอำ
�นวยความสะดวกที่
ไม่
เป็
นมิ
ตรกั
บโลกขึ้
นมามากมาย เรา
คงมี
ก๊
าซออกซิ
เจนในชั้
นบรรยากาศมากกว่
านี้
และโลกคงมี
ภู
มิ
ต้
านทานที่
จะคอยป้
องกั
นตั
วเองจากภั
ยที่
เกิ
ดขึ้
นตาม
ธรรมชาติ
ได้
เราไม่
อาจย้
อนเวลากลั
บไปในอดี
ตที่
โลกยั
งคง
แข็
งแรงและอุ
ดมสมบู
รณ์
ได้
และโลกกลมๆ ใบนี
ก็
มี
เพี
ยง
ใบเดี
ยว เมื่
อมี
อาการป่
วยแทรกซ้
อนอยู่
เรื่
อยๆ โดยที่
ไม่
ได้
รั
การเยี
ยวยารั
กษาอย่
างถู
กวิ
ธี
คงอี
กไม่
นานที่
วาระสุ
ดท้
ายจะมา
เยื
อน และลู
กหลานของเราคงจะไม่
มี
โอกาสได้
เห็
นภาพก้
อนเมฆ
ลอยอ้
อยอิ่
ง แสงอาทิ
ตย์
ที่
อบอุ่
น สาย
นํ้
ที่
อ่
อนโยน และแผ่
นดิ
ที่
งดงามอี
กต่
อไป
ยั
งไม่
สายเกิ
นไปที่
เราจะร่
วมมื
อกั
นปลู
กต้
นกล้
าที่
เรี
ยกว่
‘จิ
ตสำ
�นึ
ก’
ให้
หยั่
งรากฝั
งลึ
กลงในใจของเราและลู
กหลาน เพื่
อที่
สั
กวั
นหนึ่
งในอนาคตข้
างหน้
าต้
นกล้
าต้
นนี้
จะเจริ
ญเติ
บโตกลาย
เป็
‘ยา’
ที่
จะช่
วยรั
กษาอาการป่
วยของโลกให้
หายขาด กลาย
เป็
‘วั
คซี
น’
ที่
จะช่
วยป้
องกั
นโรคแทรกซ้
อน และกลายเป็
‘วิ
ตามิ
น’
ที่
จะช่
วยบำ
�รุ
งให้
ร่
างกายของโลกกลั
บมาแข็
งแรงได้
ดั
งเช่
นที่
เคยเป็
นมา
1,2,3,4,5,6 8,9,10,11,12,13,14,15,16,17,...37