Read me 27 - page 34

34
โอ้
ย! ท�
ำงานไม่
ทั
นเลย, เดี๋
ยวต้
องรี
บกลั
บมาอ่
านหนั
งสื
อ, ตื่
นสายอี
กแล้
ว – ผู
ใดก็
ตามที่
เอ่
วลี
เหล่
านี้
มั
กมาพร้
อมกั
บอารมณ์
อยากกิ
นอะไรง่
ายๆ เร็
วๆ เยอะๆ จ�
ำพวกแฮมเบอร์
เกอร์
แซนด์
วิ
ช ไก่
ทอด สลั
ด และมั
นฝรั่
งทอด ซึ่
งทุ
กเมนู
ล้
วนมาจาก สหรั
ฐอเมริ
กา ดิ
นแดน “ทุ
นนิ
ยมตั
วพ่
อ” ประเทศที่
เมื่
ก่
อนทุ
กคนต้
องพยายามเอาชี
วิ
ตรอดจากพื้
นที่
ใหม่
ๆ ที่
ไม่
คุ้
นเคย ความแห้
งแล้
ง การต่
อสู้
กั
บชนเผ่
าท้
องถิ่
โรคระบาด ระบบทาส และเดี๋
ยวนี้
ก็
พยายามเอาตั
วรอดในสั
งคมที่
เชื่
อเรื่
อง “การแข่
งขั
นเสรี
” ความมั่
งคั่
ง ความ
ก้
าวหน้
า และความสุ
ข จนกระทั่
งลดทอนความ “ร�่
ำรวย” ของวั
ฒนธรรมการกิ
นลงไป
แม้
ว่
าอเมริ
กาจะไม่
มี
วั
ฒนธรรมด้
านอาหารเป็
นของตั
วเองแท้
ๆ เพราะเพิ่
งก่
อตั้
งประเทศมาได้
เพี
ยง
สองร้
อยกว่
าปี
แต่
ก็
มี
เมนู
นั
บพั
นที่
ติ
ดตามมากั
บผู
อพยพหลากหลายเชื้
อชาติ
และถู
กดั
ดแปลงเป็
นแบบ
“อเมริ
กั
นสไตล์
” ให้
เหลื
อเพี
ยงความอร่
อยแบบพองามตามนิ
ยาม “ง่
าย เร็
ว เยอะ” เป็
นมาตรฐานเหมื
อนกั
ทุ
กจาน นี่
แหละคื
อความแตกต่
างแบบชาวอเมริ
กั
นในเมนู
ที่
เหมื
อนกั
บคนทั้
งโลก!
แฮมเบอร์
เกอร์
เป็
นหนึ่
งในอาหารอเมริ
กั
นที่
คนทั่
วโลกรู
จั
กมากที่
สุ
ด แต่
แท้
จริ
งแล้
วก�
ำเนิ
ดของ
แฮมเบอร์
เกอร์
มี
ที่
มาจากชาวเมื
องฮั
มบู
ร์
กของเยอรมนี
ที่
อพยพมาอยู่
ที่
อเมริ
กา ในปี
1900 หลุ
ยส์
แลสเซน
เจ้
าของรถเข็
นขายกั
บข้
าวในรั
ฐคอนเน็
กติ
กั
ตได้
คิ
ดค้
นแฮมเบอร์
เกอร์
ขึ้
นหลั
งจากที่
ลู
กค้
าอยากได้
อาหาร
อะไรก็
ได้
ที่
เร็
วๆ แต่
พอดี
สเต็
กที่
ร้
านหมด เขาเลยจั
ดการเอาเนื้
อบดมาย่
างแล้
ววางลงบนแผ่
นขนมปั
งประกบ
และขายอยู
อย่
างนั้
นหลายปี
โดยไม่
มี
ชื่
อเรี
ยก จนกระทั่
งกะลาสี
เรื
อชาวเมื
องฮั
มบู
ร์
กมาชิ
มเข้
าจึ
งตั้
งชื่
อว่
อาหารของชาวฮั
มบู
ร์
ก หรื
อ ฮั
มบู
ร์
เกอร์
แต่
ผู
ที่
ท�
ำให้
แฮมเบอร์
เกอร์
โด่
งดั
งอย่
างแท้
จริ
งต้
องเป็
นร้
านอาหาร
ไวท์
คาสเซิ
ลที่
ในปี
1927 ได้
ขายแฮมเบอร์
เกอร์
ขนาด 2.5 นิ้
วที่
เรี
ยกว่
า สไลเดอร์
ส เป็
นรายแรก ท�
ำให้
รั
บประทานง่
ายขึ้
น และยั
งเจาะรู
เนื้
อ 5 รู
เพื่
อท�
ำให้
สุ
กเร็
วขึ้
นและทั่
วถึ
งจนไม่
ต้
องพลิ
กเนื้
อ และในปี
1995
ได้
เริ่
มขายเบอร์
เกอร์
แช่
แข็
งออกไปตามร้
านสะดวกซื้
ฮอทดอก
เช่
นเดี
ยวกั
บแฮมเบอร์
เกอร์
ฮอทดอกเริ่
มต้
นจากชาวเยอรมั
นอพยพที่
น�
ำไส้
กรอก
ติ
ดมาขายด้
วย ซึ่
งในสมั
ยร้
อยกว่
าปี
ที่
แล้
ว ชาวเยอรมั
นน�
ำเนื้
อสุ
นั
ขมาท�
ำไส้
กรอกกั
นเป็
นปกติ
ค�
ำว่
า ดอก ซึ่
แปลว่
าสุ
นั
ขจึ
งถู
กใช้
เรี
ยกไส้
กรอกไปด้
วย ดั
งนั้
น ฮอทดอก จึ
งแปลว่
าไส้
กรอกร้
อนๆ นั่
นเอง ต่
อจากนั้
น เมื่
ไส้
กรอกเป็
นที่
แพร่
หลายในอเมริ
กา คนที่
ขายไส้
กรอกตามงานรื่
นเริ
งหลายแห่
งจึ
งคิ
ดค้
นวิ
ธี
การขายแบบใหม่
ให้
ลู
กค้
ากิ
นได้
สะดวกขึ้
น ด้
วยการเอาขนมปั
งมาประกบเพื่
อไม่
ให้
ลวกมื
อแทนการให้
ถุ
งมื
อที่
มั
กถู
กขโมยไปเลย
ในปั
จจุ
บั
นฮอทดอกวางขายอยู่
ทั่
วไปตามร้
านสะดวกซื้
อ เป็
นอาหารถู
กและเร็
วที่
ขายตามข้
างถนน กลายเป็
ขวั
ญใจคนท�
ำงาน และเป็
นของคู่
กั
นกั
บผู้
ชมกี
ฬาเบสบอล
ป๊
อปคอร์
หรื
อ ข้
าวโพดคั่
ว ก�
ำเนิ
ดขึ้
นครั้
งแรกในเม็
กซิ
โกเมื่
อ 9 พั
นปี
ที่
แล้
ว และกระจายไป
ทั่
วทวี
ปอเมริ
กา เพราะสภาพภู
มิ
ประเทศทั่
วทั้
งทวี
ปเหมาะแก่
การปลู
กข้
าวโพดเป็
นที่
สุ
ด แต่
ส�
ำหรั
บชาว
อเมริ
กั
นยุ
คใหม่
ที่
อพยพไปตั้
งรกรากภายหลั
งได้
รู
จั
กและนิ
ยมชมชอบป๊
อปคอร์
นจริ
งๆ ในช่
วงเศรษฐกิ
จตกต�่
ระหว่
างสงครามโลกครั้
งที่
1 และ 2 หรื
อ เดอะ เกรท ดิ
เพรสชั่
น เนื่
องจากมี
ราคาถู
ก และในช่
วงสงครามโลก
ครั้
งที่
2 คนอเมริ
กั
นกิ
นป๊
อปคอร์
นมากกว่
าเดิ
มอี
ก 3 เท่
า เมื่
อลู
กอมขาดตลาดเพราะน�้
ำตาลขาดแคลน
มี
ตโลฟ
หรื
อก้
อนเนื้
อบดปรุ
งรส เป็
นอาหารดั้
งเดิ
มของชาวเยอรมั
นและเบลเยี่
ยมที่
อพยพมา
ตั้
งรกราก และได้
รั
บความนิ
ยมในช่
วงเดอะ เกรท ดิ
เพรสชั่
น พร้
อมกั
บป๊
อปคอร์
น เพราะแม่
บ้
านสามารถ
เอาเนื้
อถู
กๆ มาบดผสมกั
บของที่
เหลื
ออยู
ในครั
วได้
เป็
นอาหารมื้
อใหม่
ปริ
มาณมาก ปั
จจุ
บั
นคนส่
วนใหญ่
มั
กกิ
นมี
ตโลฟเพื่
อหวนร�
ำลึ
กความหลั
งสมั
ยเด็
กๆ
เรื่
อง : กิ
ตติ
ดิ
ษฐ์
ธนดิ
ษฐ์
สุ
วรรณ
แตกต่
าง
เหมื
อน(อเมริ
)กั
1...,24,25,26,27,28,29,30,31,32,33 35,36,37,38,39,40,41,42,43,44,...56
Powered by FlippingBook