MARSHAL - page 31
31
“ขอโทษด้
วยค่
ะ คิ
ดว่
าครู
กลั
บกั
นหมดแล้
ว” แม่
บ้
านอธิ
บาย
เธอชู
กุ
ญแจห้
องเรี
ยนทั้
งหมดให้
ผมดู
เพื
่
อบอกว่
าเธอก�
ำลั
งเดิ
นไล่
ปิ
ด
ประตู
ห้
องเรี
ยน
“ไม่
เป็
นไรครั
บ ผมก�
ำลั
งจะกลั
บพอดี
” ผมบอกก่
อนจะเดิ
น
ออกมาจากห้
องพั
กครู
ตั้
งแต่
ผมเป็
นครู
อยู
่
ที่
นี่
ผมยั
งไม่
เคยกลั
บบ้
านค�่
ำ
ขนาดนี้
เลย โรงเรี
ยนนี้
เป็
นโรงเรี
ยนของมู
ลนิ
ธิ
ส�
ำหรั
บเด็
กที่
พ่
อแม่
มี
เงิ
น
เดื
อนน้
อยไม่
สามารถส่
งลู
กเรี
ยนได้
เด็
กที่
มาเรี
ยนไม่
ต้
องจ่
ายค่
าเทอม
และครู
ที่
มาสอนก็
ไม่
ได้
รั
บเงิ
นเดื
อน เราเรี
ยกตั
วเองว่
า ‘ครู
อาสา’ ผม
จะมาท�
ำงานเป็
นครู
อาสาเฉพาะวั
นจั
นทร์
และวั
นเสาร์
เพราะผมมี
เวลา
ว่
างเพี
ยงสองวั
น มี
หลายคนถามผมว่
าผมจะมาท�
ำงานที่
ไม่
ได้
รั
บค่
า
ตอบแทนท�
ำไม ผมว่
าบางที
ค่
าตอบแทนที่
เราได้
ไม่
จ�
ำเป็
นจะต้
องเป็
นเงิ
น
แต่
อาจเป็
นสิ่
งที่
มี
ค่
ามากกว่
านั้
นก็
ได้
ขณะที่
ผมก�
ำลั
งเดิ
นไปยั
งประตู
โรงเรี
ยน กลิ่
นดิ
นหลั
งฝนตกที่
ท�
ำให้
ผมรู
้
สึ
กสดชื่
น ลมหนาวยามเย็
นพั
ดผ่
านท�
ำให้
สามารถหายใจได้
เต็
มปอด แต่
บางครั้
งกลั
บท�
ำให้
รู
้
สึ
กเหงาและว้
าเหว่
บริ
เวณโรงเรี
ยน
เงี
ยบสงั
ด ไม่
เหมื
อนกั
บตอนกลางวั
นที่
มี
เสี
ยงเด็
กพู
ดคุ
ยกั
นอย่
าง
สนุ
กสนาน ผมเดิ
นมาถึ
งลานกว้
างซึ่
งท�
ำให้
หวนคิ
ดถึ
งชี
วิ
ตวั
ยเด็
กขึ้
นมา
อี
กครั้
ง วั
นแรกของการมาโรงเรี
ยน เมื่
อผมเจอเพื่
อนใหม่
ผมมื
อสั
่
น ตั
ว
สั่
นไปหมด จนเพื่
อนๆ คิ
ดว่
าผมเป็
นบ้
า ดี
ที่
มี
เพื่
อนคนหนึ่
งกล้
าเดิ
นเข้
า
มาคุ
ยด้
วย ไม่
อย่
างนั้
นผมคงกลายเป็
นเด็
กที่
ไม่
มี
เพื่
อนคบ
ตอนนี้
นั
กเรี
ยน ผู้
ปกครอง รวมถึ
งครู
อาสาก็
กลั
บบ้
านกั
นหมด
แล้
ว ท�
ำให้
ผมยื
นอยู่
คนเดี
ยวในบริ
เวณนั้
น..
หรื
ออาจไม่
ใช่
ผมคนเดี
ยว..
ผมเพิ่
งสั
งเกตเห็
นว่
ามี
ผู
้
หญิ
งอี
กคนที่
ยั
งยื
นอยู
่
ตรงใต้
ต้
นไม้
เธอ
มองบรรยากาศรอบๆ ด้
วยความเงี
ยบงั
น ผมเดิ
นเข้
าไปหาเธอ เพื่
อจะ
ถามว่
าเธอมารอใครอยู
่
หรื
อเปล่
า เพราะคงไม่
เหลื
อเด็
กหรื
อแม้
แต่
ครู
อาสาในโรงเรี
ยนนี้
อี
กแล้
ว
“เอ่
อ...คุ
ณรอใครอยู
่
หรื
อเปล่
าครั
บ?” ผมถามออกไป เธอหั
น
หน้
ามามองผมก่
อนจะตอบค�
ำถาม
“ค่
ะ” ค�
ำที่
เธอตอบกลั
บมาท�
ำให้
ผมไม่
รู
้
จะพู
ดอะไรต่
อ ผมสงสั
ย
ว่
าเธอก�
ำลั
งรอใครในเมื่
อตอนนี้
เหลื
อแค่
ผม เธอ และแม่
บ้
าน ผมเดิ
น
เข้
าไปใกล้
จนเห็
นใบหน้
าของเธอ เธอเป็
นผู
้
หญิ
งที่
อายุ
น่
าจะประมาณ
สามสิ
บปลายๆ หรื
ออาจน้
อยกว่
านั้
น ผมสี
ด�
ำยาว ผิ
วสี
ขาวซี
ด ผมไม่
เคยรู
้
จั
กเธอมาก่
อน เพราะฉะนั้
นเธอคงไม่
ได้
มารอผม เธออาจมารอ
แม่
บ้
าน แต่
ที่
ผมเคยได้
ยิ
นมา รู
้
สึ
กว่
าแม่
บ้
านไม่
มี
ญาติ
ที
่
ไหน และมั
กอยู
่
ตั
วคนเดี
ยวเสมอ
“ผมว่
าคนที่
คุ
ณรอเขาอาจจะกลั
บไปแล้
วก็
ได้
นะครั
บ”
“ไม่
หรอกค่
ะ” เธอยื
นยั
นก่
อนจะมองบรรยากาศรอบๆ บริ
เวณ
โรงเรี
ยนอี
กครั้
ง เหมื
อนก�
ำลั
งตามหาอะไรอยู่
และนั่
นท�
ำให้
ผมเริ่
มรู้
สึ
ก
ขนลุ
ก...
ผู้
หญิ
งผิ
วขาวซี
ด ก�
ำลั
งยื
นอยู่
คนเดี
ยวใต้
ต้
นไม้
พร้
อมกั
บบอก
บรรยากาศรอบๆ โดยไม่
ได้
พู
ดอะไร มั
นดู
ไม่
ใช่
เรื
่
องปกติ
นั
กที่
จะเจอ
เหตุ
การณ์
แบบนี้
แต่
เดี๋
ยว..!
ผมว่
าผมเคยเห็
นเธอมาก่
อน ถ้
าจ�
ำไม่
ผิ
ดผมเคยเห็
นเธอยื
นอยู่
ที
่
หน้
าประตู
โรงเรี
ยนเหมื
อนรออะไรสั
กอย่
าง ตอนแรกผมคิ
ดว่
าเธอเป็
น
ผู
้
ปกครอง แต่
พอผมก�
ำลั
งจะเดิ
นเข้
าไปถามว่
ามารั
บเด็
กคนไหน จู
่
ๆเธอ
ก็
เดิ
นจากไป โดยไม่
ได้
พาเด็
กคนไหนออกไปด้
วย ผมว่
าเธออาจเสี
ยสติ
“ปั
ง!” ประตู
ถู
กปิ
ดอย่
างแรงจนเกิ
ดเสี
ยงดั
ง ผมอดรู
้
สึ
กผวาไม่
ได้
เพราะเสี
ยงนั้
นเหมื
อนเกิ
ดขึ้
นใกล้
ๆแถวนี
้
ผมพยายามมองหาต้
น
เสี
ยง และแล้
วผมก็
เห็
นประตู
ที่
คาดว่
าเป็
นตั
วต้
นเหตุ
มั
นอยู
่
ใกล้
ลาน
กว้
างมากที่
สุ
ด ผมเดิ
นไปยั
งห้
องเรี
ยนนั้
น ภายในห้
องเรี
ยนไม่
มี
อะไร
ผิ
ดปกติ
มั
นเป็
นแค่
ห้
องว่
างๆ ที่
มี
โต๊
ะไม่
กี่
ตั
ว นาฬิ
กาที่
แขวนอยู่
บนฝา
ผนั
ง และรู
ปตั
วตลกที่
ก�
ำลั
งแสยะยิ้
มถู
กติ
ดอยู
่
ด้
านล่
างของนาฬิ
กา ผมจะ
ไม่
รู้
สึ
กกลั
วเลย ถ้
าหากข้
างๆ ตั
วตลกไม่
มี
ค�
ำว่
า ‘I’m waiting for you’
ผมไม่
รู
้
ว่
าใครเป็
นคนเขี
ยนค�
ำนั้
น ตั
วอั
กษรที่
ถู
กเขี
ยนด้
วยสี
เที
ยนสี
แดง
อาจเป็
นของนั
กเรี
ยนในห้
องก็
ได้
หรื
ออาจไม่
ใช่
สิ่
งที่
ผมคิ
ด
ผมรี
บลงกลอน แล้
วปิ
ดประตู
ผมพยายามหมุ
นที่
ลู
กบิ
ดอี
กครั้
ง
เพื่
อยื
นยั
นว่
าผมล็
อกมั
นแล้
ว หลั
งจากที่
ผมท�
ำทุ
กอย่
างเสร็
จเรี
ยบร้
อย
ผมก็
หั
นกลั
บมายั
งลานกว้
างอี
กครั้
ง แต่
... ผู
้
หญิ
งคนนั้
นได้
หายตั
วไปแล้
ว
หั
วใจของผมเต้
นแรงขึ้
น หายใจหอบถี่
เธอหายไปได้
อย่
างไร ค�
ำถามที่
ผมไม่
สามารถหาค�
ำตอบได้
เธออาจจะเดิ
นไปที่
อื่
นก็
ได้
... แต่
เธอจะเดิ
น
เล่
นรอบโรงเรี
ยนเพื่
ออะไร ถ้
าไม่
ใช่
เพราะว่
า..เธอตายอยู่
ที่
นี่
“พรึ่
บ!” จู
่
ๆ ไฟก็
ดั
บทั้
งโรงเรี
ยน ผมว่
าครั้
งนี้
มั
นไม่
ใช่
ความผิ
ด
ของแม่
บ้
านแล้
ว ผมวิ่
งไปยั
งประตู
ทางออกของโรงเรี
ยน เวลาหนึ่
งทุ่
ม
ความสว่
างของหลอดไฟไม่
ได้
มี
ผลต่
อการมองเห็
นสั
กเท่
าไหร่
ผมพอ
มองเห็
นว่
าอะไรเป็
นอะไร แต่
ต้
องอยู่
ในระยะใกล้
พอสมควร ท�
ำให้
รู้
ว่
า
ควรวิ่
งไปทางไหน ตอนนี้
ผมไม่
สนใจผู้
หญิ
งคนนั้
นแล้
ว ไม่
ว่
าเธอจะอยู่
ที่
ไหนหรื
อท�
ำอะไรอยู
่
มั
นคงไม่
เกี่
ยวกั
บผม เพราะเธอคงดู
แลตั
วเองได้
ผมไม่
ได้
ยิ
นเสี
ยงกรี
ดร้
อง หรื
อเสี
ยงอะไรที่
แสดงความตกใจของผู
้
หญิ
ง
เวลาต้
องอยู
่
ในความมื
ดคนเดี
ยว เธอคงเป็
นพวกชอบอยู
่
ในความมื
ด
หรื
อไม่
ก็
เป็
นคนท�
ำเรื่
องพวกนี้
ขณะที่
ผมก�
ำลั
งวิ่
งอยู
่
นั้
น ผมก็
รู
้
สึ
กเหมื
อนมี
คนจ้
องมองจาก
ทางด้
านหลั
ง
“รี
บไปไหนเหรอคะ?” เสี
ยงของผู
้
หญิ
งคนนั้
นดั
งขึ้
น มั
นเป็
น
เสี
ยงเรี
ยบๆ ที่
บ่
งบอกว่
าเธอไม่
ได้
มี
ความกลั
วแม้
แต่
น้
อยที่
ต้
องอยู
่
ใน
ความมื
ด และไม่
ได้
ตกใจที่
จู
่
ๆไฟก็
ดั
บ ใจผมตอนนี้
วิ่
งไปถึ
งประตู
เป็
น
ที่
เรี
ยบร้
อย แต่
ขาของผมกลั
บก้
าวไม่
ออก ร่
างกายผมกลายเป็
นรู
ปปั้
น
ที่
ไม่
สามารถขยั
บไปไหนมาไหนได้
เลย
ที
่
นี่
เงี
ยบ... จนได้
ยิ
นเสี
ยงฝี
เท้
าของผู
้
หญิ
งคนนั้
น เธอเดิ
นตรงเข้
า
มาหาผมช้
าๆ ราวกั
บไม่
ได้
เร่
งรี
บอะไร อากาศที่
หนาวเย็
นกลั
บท�
ำให้
ผม
เหงื่
อแตกพลั่
ก ตั
วสั่
นเหมื
อนวั
นแรกของการมาโรงเรี
ยน
“ผมไม่
รู้
ว่
าคุ
ณต้
องการอะไร แต่
ถ้
าคุ
ณเป็
นดวงวิ
ญญาณ คุ
ณ
ควรอยู
่
ในที่
ของคุ
ณ” ผมพู
ดออกไปตรงๆ เพราะมั
นอาจท�
ำให้
เธอ
เปลี่
ยนใจไม่
ท�
ำร้
ายผม ตอนนี้
ผมแทบจะควบคุ
มสติ
ตั
วเองไม่
อยู่
แต่
แล้
ว...จู
่
ๆ ไฟก็
ติ
ด ท�
ำให้
ผมเห็
นว่
าใบหน้
าของเธออยู
่
ห่
าง
1...,21,22,23,24,25,26,27,28,29,30
32,33,34,35,36,37,38,39,40,41,...48