40
ในชี
วิ
ตของเราเคยให้
ค�
ำนิ
ยามค�
ำว่
า ‘นั
กเดิ
นทาง’ ไว้
บ้
างหรื
อเปล่
า
บ้
างว่
าการเดิ
นทางเป็
นการพาตั
วเองไปอยู
่
ในสถานที่
ต่
างไปจากเดิ
ม
ช่
วงขณะหนึ่
ง บ้
างว่
าการเดิ
นทางเป็
นการได้
เดิ
นทางกลั
บเข้
าไปเรี
ยนรู
้
ตั
วตนภายใน ไม่
มี
ใครบอกได้
ว่
านิ
ยามใดถู
ก นิ
ยามใดผิ
ด หรื
อท้
าย
ที่
สุ
ดแล้
ว ชี
วิ
ตนั่
นแหละคื
อการเดิ
นทาง เราทุ
กคนต่
างเป็
นนั
กเดิ
นทาง
ชี
วิ
ต และการเดิ
นทางต่
างมี
ข้
อจ�
ำกั
ดส�
ำคั
ญที่
เหมื
อนกั
นคื
อ ‘เวลา’
ชึ่
งเราต่
างด�
ำรงอยู่
เพี
ยงชั่
วพริ
บตา
แน่
นอนว่
าในการเดิ
นทางย่
อมมี
การเดิ
นทางที่
เต็
มไปด้
วยความสุ
ข
และในครั้
งถั
ดมาก็
อาจจะทุ
กข์
แสนสาหั
ส แต่
ที่
แน่
ๆ คื
อ ในสมอง
ของคนเรานั้
นหน่
วยบั
นทึ
กความทุ
กข์
มั
กท�
ำงานได้
ดี
กว่
าหน่
วยบั
นทึ
ก
ความสุ
ข แต่
ความสุ
ขนั้
นต่
อให้
มี
มากมายแต่
ก็
เป็
นสิ่
งที่
อายุ
สั้
น ดั
งนั้
น
วั
นที่
เราทุ
กข์
แสนสาหั
ส หากให้
นึ
กถึ
งวั
นที่
มี
ความสุ
ข สมองของคนเรา
จึ
งมั
กจะป่
วยเป็
นโรคอั
ลไซเมอร์
ขึ้
นมาเอาดื้
อๆ
เมื่
อพู
ดถึ
งความทุ
กข์
ย่
อมมี
รู
ปแบบความทุ
กข์
ที่
มากมาย และ
มี
ค�
ำถามตามมาไม่
แพ้
กั
นเช่
น เจ็
บในเรื่
องใดบ้
างที่
เราจะไม่
ทน ในชี
วิ
ต
ของคนเราจะสามารถเผชิ
ญหน้
ากั
บความเจ็
บปวดได้
สั
กกี่
ครั้
งในชี
วิ
ต
แต่
ค�
ำถามที่
น่
าสนใจที่
สุ
ดก็
คื
อ หากเราสามารถกลั
บมาใช้
ชี
วิ
ตได้
ตาม
ปกติ
อี
กครั้
งหนึ่
ง แปลว่
าเราหายดี
แล้
วจริ
งหรื
อ เพราะบางครั้
งที่
เรา
ยอมเจ็
บปวดกั
บเรื่
องเดิ
มซ�้
ำซาก อาจเป็
นเพราะคนที่
ท�
ำให้
เราต้
อง
ติ
ดอยู
่
กั
บความรู
้
สึ
กเหล่
านั้
นเป็
นคนส�
ำคั
ญ คนที่
เราเรารั
ก และเป็
นไป
ได้
ว่
า ถ้
าเราเลิ
กคิ
ดเรื่
องราวเหล่
านั้
น อาจท�
ำให้
เราลื
มเขาเข้
าจริ
งๆ
เช่
นเดี
ยวกั
บตั
วของเราเองเมื่
อกล้
าที่
จะก้
าวออกไปจากจุ
ดเดิ
ม จาก
การเฝ้
าคิ
ดแต่
เรื่
องเดิ
มๆ คนส�
ำคั
ญคนนั้
นก็
ไม่
ได้
จางหายไป หรื
อ
ได้
ลื
มเขาอย่
างที่
คิ
ด แต่
มั
นท�
ำให้
เราได้
ถอยออกมาและเลื
อกที่
จะ
จดจ�
ำเขาในมุ
มที่
ดี
กว่
าเดิ
มในแบบที่
เราจะไม่
โหดร้
ายกั
บตั
วเองมาก
เกิ
นไปนั
ก และได้
เรี
ยนรู
้
ว่
าความทุ
กข์
กั
บสุ
ขในชี
วิ
ตเราสามารถแยก
ส่
วนกั
นได้
เรายั
งคงสามารถหั
วเราะไปกั
บเรื่
องตลกได้
เช่
นเดิ
ม แต่
ใน
ขณะเดี
ยวกั
นเราก็
รู
้
สึ
กเจ็
บปวดได้
เหมื
อนวั
นแรกที่
รู
้
สึ
กไม่
ผิ
ดเพี้
ยน
ในสภาวะอย่
างใดอย่
างหนึ่
งที่
เกิ
ดขึ้
นนั้
นไม่
ได้
ท�
ำให้
เราสู
ญเสี
ยความ
สามารถทางการรั
บรู
้
ความรู
้
สึ
กคู
่
ตรงข้
ามนี้
ได้
เลย เป็
นไปได้
ว่
า
มั
นอาจเป็
นปฏิ
กิ
ริ
ยาคู่
ขนานที่
จะประคองความเป็
นไปของชี
วิ
ตเราไว้
ถ้
าเที
ยบกั
บการเดิ
นทางก็
คงเหมื
อนการตั้
งค�
ำถามว่
าท�
ำไมเรา
ยั
งอยากจะเดิ
นทางอยู
่
ทั้
งๆ ที่
คราวที่
แล้
วมั
นแย่
ไม่
สนุ
ก แถมยั
งเหนื่
อย
บางครั้
งก็
ได้
สี
ผิ
วที่
เปลี่
ยนไปในทางเข้
มขึ้
น เนื่
องจากไปในที่
ๆ แดดแรง
เสี
ยเหลื
อเกิ
น แต่
ท้
ายที่
สุ
ดสิ่
งที่
เราจะได้
คื
อ เราไม่
ใช่
คนเดิ
มอี
กแล้
ว
และแสงแดดมี
ผลต่
อการซี
ดจางของสี
ที่
ฉาบทาอยู
่
บนที่
ต่
างๆ ของ
ความรู
้
สึ
ก และความทรงจ�
ำ ถ้
าไม่
ก้
าวออกมาเจอแสงแดดเสี
ยบ้
าง
การซี
ดจางของมั
นก็
คงเป็
นเรื่
องที่
เป็
นไปไม่
ได้
เหมื
อนการเฝ้
าแต่
ครุ
่
นคิ
ดอยู
่
ในโลกที่
เราคิ
ดว่
ามื
ดมนเสี
ย
เหลื
อเกิ
น แต่
ก็
ไม่
เคยที่
จะเปิ
ดหน้
าต่
างให้
แสงแดด ได้
ส่
องเข้
ามา
การเดิ
นไปข้
างหน้
า อาจไม่
ใช่
แค่
การเดิ
นห่
างออกไปจากบาง
เหตุ
การณ์
บางความรู
้
สึ
ก เพราะอดี
ตมั
กวางไว้
ถู
กที่
ถู
กทางเสมอ
ไม่
ว่
าเมื่
อไรเราก็
หามั
นเจอ แม้
ไม่
อยากจะเจอก็
ตาม ขณะเดี
ยวกั
น ก็
เป็
นความทรงจ�
ำอี
กนั่
นแหละที่
หนั
กเกิ
นกว่
าที่
เราจะแบกมั
นไว้
ตลอด
การเดิ
นไปข้
างหน้
า เป็
นเพี
ยงแค่
การสร้
างเรื่
องราวใหม่
ๆ ให้
มากขึ้
น
มากจนตั
วเราเองมี
ตั
วเลื
อกมากพอให้
รู
้
สึ
ก จนไม่
จ�
ำเป็
นต้
องจมกั
บ
เรื่
องเดิ
ม เพื่
อที่
สุ
ดท้
ายแล้
ว ทุ
กอย่
างก็
จะเหลื
อเพี
ยงแค่
ร่
องรอยของ
สิ่
งก่
อสร้
างเก่
าๆ ที่
แสงแดดได้
พาความรู
้
สึ
กเหล่
านั้
นระเหยไปตาม
กาลเวลา เหลื
อไว้
เพี
ยงเรื่
องเล่
าที่
ว่
า กาลครั้
งหนึ่
งเราเคยพบกั
น ณ
ช่
วงเวลาที่
มี
อยู่
จริ
ง
แด่
นั
กเดิ
นทาง
ผู
้
สะสมกาลเวลา
Time moves in one direction,
memory in another.
- William Gibson
เรื
่
อง : ธั
นย์
ชนก รื
่
นถวิ
ล
มื
อคิ
ด-มื
อทำ
�