นิตยสาร ลายสาระ - page 22
LAST Issue
–– 21
เกร็
ดประวั
ติ
ศาสตร์
ท้
าวทองกี
บม้
าไม่
ใช่
ชื่
อบุ
คคล หากเป็
นชื่
อ
ต�
ำแหน่
งหั
วหน้
าวิ
เสทในพระราชส�
ำนั
กตาม
พระไอยการต�
ำแหน่
งนาพลเรื
อน นาทหาร
หั
วเมื
อง ในรั
ชสมั
ยของสมเด็
จพระนารายณ์
มหาราช นางมี
หน้
าที่
ท�
ำอาหารเลี้
ยงต้
อนรั
บ
คณะราชทู
ตฝรั่
งเศสที่
มาเยื
อนในสมั
ยนั้
น
เมื่
อเข้
าไปรั
บราชการในพระราชวั
ง นางได้
สร้
างสรรค์
ขนมหวานของไทยหลายชนิ
ด ประเภท
ฝอยทอง ทองหยิ
บ ทองหยอด ด้
วยเหตุ
นี้
ท้
าวทองกี
บม้
าจึ
งได้
ชื่
อเป็
น ‘ราชิ
นี
แห่
งขนมไทย’
ท้
าวทองกี
บม้
าเกิ
ดในแผ่
นดิ
นกรุ
งศรี
อยุ
ธยา
เป็
นลู
กครึ่
งโปรตุ
เกสกั
บญี่
ปุ
่
น เคร่
งครั
ดในศาสนา
คริ
สต์
นิ
กายโรมั
นคาทอลิ
ก นางแต่
งงานตั้
งแต่
อายุ
เพี
ยง 16 ปี
กั
บคอนสแตนติ
น ฟอลคอน
(ออกญาวิ
ชาเยนทร์
) ชาวกรี
กที่
เข้
ามารั
บราชการ
ในแผ่
นดิ
นสมเด็
จพระนารายณ์
มหาราช ก่
อนที่
จะแต่
งงานกั
บฟอลคอน ฟอลคอนเคยมี
ภรรยา
มาแล้
วหลายคน และด้
วยอุ
ปนิ
สั
ยที่
แตกต่
างกั
น
มากท�
ำให้
นางมี
ปั
ญหาระหองระแหงกั
บฟอลคอน
แต่
ก็
ยั
งประคองความรั
กจนมี
บุ
ตรด้
วยกั
น 2 คน
ได้
แก่
จอร์
จ ฟอลคอน และ ฮวน ฟอลคอน
ต่
อมาเมื่
อสามี
นางถู
กลงโทษข้
อหากบฏ ถู
กเรี
ยก
ต�
ำแหน่
งคื
น ถู
กริ
บทรั
พย์
และถู
กประหารชี
วิ
ต
นางจึ
งถู
กส่
งตั
วเข้
าไปเป็
นคนรั
บใช้
ในพระราชวั
ง
มี
หน้
าที่
ท�
ำอาหารหวานประเภทต่
างๆ ส่
งเข้
าไป
ในพระราชวั
งตามก�
ำหนด นางได้
คิ
ดค้
นขนม
ขึ้
นมาใหม่
ตลอดเวลา โดยดั
ดแปลงต�
ำรั
บเดิ
ม
ของโปรตุ
เกส แล้
วเอาวั
ตถุ
ดิ
บท้
องถิ่
นที่
มี
ใน
สยามเข้
ามาผสมผสาน ซึ่
งหลั
กๆ ได้
แก่
มะพร้
าว
แป้
ง น�้
ำตาล จนท�
ำให้
เกิ
ดขนมใหม่
ที่
มี
รสชาติ
อร่
อย พระราชวั
งก็
ได้
ให้
ความชื่
นชมมากและ
เรี
ยกตั
วนางให้
เข้
าไปรั
บราชการในต�
ำแหน่
ง
หั
วหน้
าห้
องเครื่
องต้
น
แม้
ท้
าวทองกี
บม้
าจะมี
ชี
วิ
ตในระยะแรกๆ
ค่
อนข้
างล�
ำบาก สามี
ถู
กประหาร ต้
องมี
ชี
วิ
ต
ระหกระเหิ
น ถู
กส่
งตั
วไปเป็
นคนรั
บใช้
แต่
ด้
วย
ความสามารถและอุ
ปนิ
สั
ยที่
ดี
บั้
นปลายชี
วิ
ตของ
นางจึ
งสุ
ขสบายและได้
รั
บการยกย่
องตามควร
นางมี
อายุ
ยื
นยาวถึ
ง 4 รั
ชกาล คื
อ สมเด็
จ-
พระนารายณ์
มหาราช สมเด็
จพระเพทราชา
สมเด็
จพระเจ้
าเสื
อ และสมเด็
จพระเจ้
าท้
ายสระ
รสมื
อของท้
าวทองกี
บม้
านั้
นเป็
นที่
เลื่
องลื
อยิ่
งนั
ก จนเจ้
าพระยาโกษาธิ
บดี
ปานและครอบครั
วออกปากชมมิ
ได้
ขาด
เจ้
าพระยาโกษาธิ
บดี
ปานจึ
งได้
มอบหมาย
ให้
ท้
าวทองกี
บม้
าเป็
นผู
้
ก�
ำกั
บการชาว
เครื่
องพนั
กงานหวานและเป็
นผู
้
สั่
งสอน
ชาวสยามท�
ำของหวาน นั
บเป็
นจุ
ดเริ่
มต้
น
ของการท�
ำอาหารตามแบบชาวตะวั
นตก
เป็
นครั้
งแรก และต่
อมาก็
ได้
มี
การดั
ดแปลง
ตามรสนิ
ยมของคนไทยเรื่
อยมา
บางคราวคุ
ณท้
าวที่
นุ
่
งโจง ห่
มแถบ
ห่
มสไบอย่
างคนไทย ก็
จะออกไปปฏิ
บั
ติ
ศาสนกิ
จที่
โบสถ์
คริ
สต์
ในหมู
่
บ้
านโปรตุ
เกส
สร้
างความหวั
งในการที่
จะได้
อยู
่
ใกล้
ชิ
ด
พระผู
้
เป็
นเจ้
าเมื่
อได้
ละสั
งขารจากโลกนี้
ไปแล้
ว
ที่
โบสถ์
นี้
เอง ที่
ท�
ำให้
นางได้
พบกั
บ
ฮิ
เอโรนิ
โม คนรู
้
จั
กชาวโปรตุ
เกส เขารั
บ
อาสาที่
จะพานางออกนอกราชอาณาจั
กร
โดยเรื
อสลุ
บติ
ดอาวุ
ธของเขา
ท้
าวทองกี
บม้
าทอดมองออกไปยั
ง
นอกหน้
าต่
าง คิ
ดใคร่
ครวญเรื่
องนี้
นานอยู่
หลายวั
น สุ
ดท้
ายนางก็
ตั
ดสิ
นใจที่
จะไป
จากกรุ
งศรี
อยุ
ธยา ด้
วยเหตุ
ผลที่
ว่
านาง
อยากเดิ
นทางออกไปยั
งโลกกว้
าง แสวงหา
ความหมายของชี
วิ
ตในช่
วงบั้
นปลาย
แต่
ก่
อนจากไป นางอยากจะท�
ำสิ่
งหนึ่
ง
ฝากไว้
ให้
เป็
นสมบั
ติ
ของแผ่
นดิ
นกรุ
งศรี
-
อยุ
ธยาสื
บไป
นางใช้
เวลาในตอนกลางคื
น เขี
ยน
ต�
ำราอาหารคาวหวานต่
างๆ เล่
มแล้
ว
เล่
มเล่
า นางรู
้
ดี
ว่
าหากไปบอกลากั
บเจ้
า
พระยาโกษาธิ
บดี
ปาน ท่
านต้
องห้
ามไม่
ให้
นางไปแน่
เพราะกลั
วว่
าจะได้
รั
บอั
นตราย
นางจึ
งออกอุ
บายว่
าป่
วย ต้
องการจะ
พั
กผ่
อนเพี
ยงล�
ำพั
ง ท�
ำให้
มี
โอกาสที่
จะ
หนี
ออกไปที่
ท่
าเรื
อได้
เ รื
อ เ ริ่
มเ คลื่
อนห ่
างจากชายฝ ั
่
ง
คุ
ณท้
าวมองเห็
นบ้
านเรื
อน ปราสาทราชวั
ง
ตลอดจนวั
ดวาอาราม อยู
่
ไกลออกไป
เรื่
อยๆ จนกระทั่
งไกลพ้
น นางได้
ก้
าวพ้
น
มาจากแผ่
นดิ
นอั
นเป็
นบ้
านเกิ
ดเมื
องนอน
เรี
ยบร้
อยแล้
ว จากนี้
ไปคงหลงเหลื
อไว้
แต่
เพี
ยงความทรงจ�
ำทั้
งทุ
กข์
และสุ
ขปะปน
กั
น เบื้
องหน้
านั้
นคื
อจุ
ดหมายปลายทาง
ที่
ยั
งไม่
แน่
นอน นางรู
้
แต่
ว่
า นางจะใช้
เวลา
ที่
เหลื
ออยู
่
ให้
คุ
้
มค่
าที่
สุ
ด และจะมุ
่
งสร้
าง
แต่
ความดี
เจ้
าพระยาโกษาธิ
บดี
ปานรู
้
สึ
กเสี
ยใจ
ที่
คุ
ณท้
าวหนี
ไปโดยไม่
ได้
บอกลา มี
เพี
ยง
จดหมายหนึ่
งฉบั
บที่
นางจงใจทิ้
งไว ้
ท่
านเปิ
ดอ่
านดู
ก็
เห็
นถ้
อยค�
ำที่
ล้
วนเป็
น
ภาษาไทย อั
นมี
ใจความว่
า
“ข้
าเกิ
ดที่
สยาม
ข้
าจะขอท�
ำเพื่
อแผ่
นดิ
นสยาม ข้
าขอมอบ
ต�
ำราเหล่
านี้
ไว้
ให้
เป็
นมรดกของชาวสยาม
ตกทอดไปชั่
วลู
กชั่
วหลาน ท่
านโกษาธิ
บดี
ปาน ท่
านช่
างมี
พระคุ
ณกั
บข้
าเหลื
อเกิ
น
ข้
าขอสั
ญญาว่
าจั
กจดจ�
ำคุ
ณงามความดี
ของท่
านและจั
กเทิ
ดทู
นท่
านตลอดไป”
คุ
ณหญิ
งวิ
ชา เยนทร ์
เสี
ยชี
วิ
ตไป
เมื่
อใด คนในกรุ
งศรี
อยุ
ธยาไม่
มี
ใครทราบ
แต่
ขนมหวานที่
นางน�
ำมาเผยแพร่
แก่
ชาว
สยามนั้
นจะยั
งคงอยู
่
เป็
นอมตะ ให้
ได้
ร�
ำลึ
ก
ถึ
งนาม ‘ท้
าวทองกี
บม้
า’ ตราบนานเท่
านาน
นางได้
ก้
าวพ้
นมาจากแผ่
นดิ
น
อั
นเป็
นบ้
านเกิ
ดเมื
องนอน
จากนี้
ไปคงหลงเหลื
อไว้
แต่
เพี
ยง
ความทรงจ�
ำทั้
งทุ
กข์
และสุ
ข
ที่
ปะปนกั
น
1...,12,13,14,15,16,17,18,19,20,21
23,24,25,26,27,28,29,30,31,32,...74