Read me 12 - page 7

| May-June 2012
7
๑.มะละกอดิ
ผั
กให้
โปรตี
น อุ
ดมไปด้
วยเบต้
าแคโรที
ซึ่
งร่
างกายจะเปลี่
ยนให้
เป็
นวิ
ตามิ
นเอ
มี
ส่
วนช่
วยในการมองเห็
น โดยเฉพาะ
เมื่
อมี
แสงสว่
างน้
อย และวิ
ตามิ
นซี
ส า รที่
ทำ
� ใ ห้
เ ส้
นผม ฟั
น เ หงื
อก
และกระดู
กแข็
งแรง ควบคุ
มการไหล
เวี
ยนของเลื
อด แก้
เลื
อดออกตามไรฟั
ผลมะละกอยั
งมี
สรรพคุ
ณทางยา
เป็
นสมุ
นไพรช่
วยขั
บปั
สสาวะ เป็
นยา
ระบายอ่
อนๆ และยั
งนำ
�มาปรุ
งเป็
เครื่
องดื่
มสมุ
นไพร คื
อ ชามะละกอ
ที่
มี
สรรพคุ
ณในการช่
วยล้
างคราบไขมั
บริ
เวณลำ
�ไส้
ช่
วยให้
ร่
างกายดู
ดซึ
สารอาหารได้
อย่
างเต็
มที่
๒.พริ
ส่
วนผสมสำ
�คั
ญของอาหารไทย สามารถ
ต้
านมะเร็
งได้
ดี
เพราะมี
สารเบต้
าแคโรที
สารที่
ทำ
�หน้
าที่
เสมื
อนต้
านอนุ
มู
ลอิ
สระ
เพราะการลดปริ
มาณอนุ
มู
ลอิ
สระเท่
ากั
ลดความเสี่
ยงของมะเร็
ง ทั้
งยั
งพบว่
มี
ผลกระตุ้
นเซลล์
ภู
มิ
ต้
านทานในร่
างกาย
ที่
ชื่
อ ที
-เฮลเปอร์
ให้
ทำ
�งานต้
านสิ่
แปลกปลอมได้
ดี
ขึ้
น เป็
นผลดี
กั
บผู้
มี
ความเสี่
ยงโรคมะเร็
งจากการใช้
ชี
วิ
ท่
ามกลางมลภาวะ
๓.มะเขื
อเทศ
มี
ส่
วนช่
วยลดมะเร็
งในลำ
�ไส้
และมะเร็
ต่
อมลู
กหมาก จากการวิ
จั
ยพบว่
าถ้
รั
บประทานมะเขื
อเทศ 10 ครั้
งต่
สั
ปดาห์
จะช่
วยลดอั
ตราการเกิ
ดมะเร็
ที่
ต่
อมลู
กหมากในเพศชายได้
มากกว่
ร้
อยละ 75 ส่
วนคุ
ณผู้
หญิ
งต้
องใช้
มะเขื
อเทศบำ
�รุ
งผิ
วพรรณ โดยเฉพาะ
ผิ
วหน้
า มี
ส่
วนช่
วยลดการ เกิ
ดสิ
เพราะมี
ฤทธิ์
ฆ่
าเชื้
อราและแบคที
เรี
๔.ถั
วฝั
กยาว
ถ้
ากิ
นกั
บส้
มตำ
�อย่
างสดๆ ช่
วยรั
กษา
อาการท้
องอื
ดและแน่
นท้
องจากการกิ
มากเกิ
นไป ดั
งนั้
นไม่
ต้
องพะวงว่
าจะ
อร่
อยกั
บส้
มตำ
�ได้
ไม่
เต็
มที่
เพราะมี
มะเขื
อเทศเป็
นตั
วช่
วยแล้
ว แต่
สำ
�หรั
ใครที่
มี
อาการท้
องผู
ก อย่
าริ
หยิ
บเมล็
มากิ
นเชี
ยว เดี๋
ยวจะไม่
ได้
ถ่
ายกั
นพอดี
๕.มะนาว
มี
วิ
ต า มิ
น สู
ง ก ว่
า ส้
ม ถึ
ง ส อ ง เ ท่
สมั
ยโบราณใช้
รั
กษาโรคทางเดิ
นหายใจ
โดยคั้
นน้ำ
�มะนาวผสมน้ำ
�อุ่
นเติ
มน้ำ
�ผึ้
เป็
นสู
ตรดั่
งเดิ
มในการรั
กษาโรคหวั
บรรเทาอาการเจ็
บคอ แถมยั
งนิ
ยม
นำ
�มาผสมกั
บดิ
นสอพอง พอกใบหน้
ให้
ผิ
วหน้
าเนี
ยน
๖.ปลาร้
อุ
ดมไปด้
วยสารอาหารครบ 5 หมู่
ทั้
ง คาร์
โบไฮเดรต ไขมั
น โปรตี
วิ
ตามิ
น และเกลื
อแร่
โดยเฉพาะเมื่
ทำ
�จากปลาช่
อน และเมื่
อเที
ยบกั
ผลิ
ตภั
ณฑ์
หมั
กดองประเภทอื่
น เช่
กะปิ
และน้ำ
�ปลา จะมี
คุ
ณค่
าทางโภชนา
สู
งกว่
ามาก ควรเลื
อกปลาร้
าที่
ปรุ
งสุ
และสะอาด เพราะการหมั
กใช้
เวลาตั้
งแต่
5-8 สั
ปดาห์
จนถึ
งนานเป็
นปี
ทำ
�ให้
อาจมี
แมลงวั
นตอม เมื่
อเกิ
ดหนอนแมลงวั
นขึ้
ผู้
ผลิ
ตอาจเลื
อกใช้
ยาฆ่
าแมลงกำ
�จั
หากเกิ
ดการตกค้
าง คนทานส้
มตำ
อย่
างเราอาจมี
อาการท้
องร่
วง ปวดท้
อง
และอาเจี
ยน รวมถึ
งการขนส่
งที่
ไม่
ถู
หลั
กอนามั
ย อาจมี
เชื้
อแบคที
เรี
หลายชนิ
ดที่
ทำ
�ให้
อาหารเป็
นพิ
ษได้
๗.กุ
งแห้
อาหารที่
อุ
ดมไปด้
วยโปรตี
นจากเนื้
อสั
ตว์
เราต้
องเลื
อกขนาดกุ้
งแห้
ง ด้
วยไซส์
หรื
เกรด ยั
งต้
องดู
ที่
สี
อี
กด้
วย เพราะกุ้
งแห้
ที่
ดี
ไม่
ควรผสมสี
ใดๆ ลงไปทั้
งสิ้
น ถ้
าใส่
สี
ผสมอาหารไม่
ว่
าจะเป็
นสี
ธรรมชาติ
หรื
อสี
สั
งเคราะห์
ล้
วนเกิ
ดการสะสม
ในร่
างกาย ส่
งผลเสี
ยต่
อการทำ
�งานของ
กระเพาะอาหาร เนื่
องจากสี
ผสมอาหาร
จะไปเคลื
อบกระเพาะ ทำ
�ให้
การดู
ดซึ
อาหารมี
ปั
ญหา และลุ
กลามไปถึ
งการ
ทำ
�งานของไต
๘.ปู
เค็
ส่
วนมากใช้
ปู
แสม ซึ่
งอั
นตรายมากๆ
เพราะในปู
เค็
มที่
ดองนั้
นเต็
มไปด้
วย
พยาธิ
ใบไม้
ในปอด และอี
กหลายชนิ
อาจจะส่
งผลเสี
ยต่
อร่
างกายคุ
ณ ถึ
งขั้
เลื
อดออกในสมองและอาจเสี
ยชี
วิ
ตลง
ในเวลาต่
อมา เพราะฉะนั้
นไม่
ว่
าจะอร่
อย
ตอนเราดู
ดดั
งจ๊
วบขนาดไหน ก็
ควร
ห่
วงใยสุ
ขภาพร่
างกายด้
วย
๙.น้
�ปลา
ผลิ
ตผลจากการหมั
กด้
วยปลาสดกั
เกลื
อ ให้
รสชาติ
แสนเค็
มขวดนี้
มี
ส่
วน
ช่
วยผู้
ขาดแคลนโปรตี
นจากเนื้
อสั
ตว์
เพราะมี
กรดกลู
ตามิ
ก ช่
วยแก้
ขั
ดยาม
ขาดโปรตี
น แต่
เราบริ
โภคน้ำ
�ปลาได้
ใน
ปริ
มาณไม่
เกิ
น 1-2 ช้
อนโต๊
ะ ซึ่
งช่
วย
ทดแทนโปรตี
นที่
ร่
างกายต้
องการใน
แ ต่
ล ะ วั
น ไ ด้
เ พี
ย ง ป ร ะ ม าณ 7 %
เ พร า ะ ฉ ะ นั้
นก า รบริ
โ ภค เ นื้
อสั
ตว์
จึ
งดี
ที่
สุ
๑๐.น้
�ตาลปี
ส่
วนผสมที่
ให้
รสหวาน ทำ
�มาจาก
การ เ คี่
ยวน้ำ
�ของยอดทะลายอ่
อน
ของมะพร้
าวจนกระทั่
งเหนี
ยว ข้
นและ
หวาน ใน 1 ช้
อน ให้
พลั
งงาน 18
กิ
โลแคลลอรี
มี
วิ
ตามิ
น เช่
น แคลเซี
ยม
ฟอสฟอรั
ส ธาตุ
เหล็
ก ใน 1 วั
น เราไม่
ควร
บริ
โภคเกิ
น 4-8 ช้
อนชา ยิ่
งถ้
าเป็
เด็
กวั
ยเรี
ยน ผู้
ใหญ่
หรื
อผู้
สู
งอายุ
ไม่
ควร
เกิ
นวั
นละ 3 ช้
อนชา ไม่
เช่
นนั้
นถ้
ารั
มากกว่
า 18 ช้
อนชาต่
อวั
น จะเสี่
ยงต่
อโรค
อ้
วน เบาหวาน ความดั
นโลหิ
ตสู
ง และ
ไขมั
นในเลื
อดสู
ส้
มตำ
� 1 ครก จึ
งมี
ทุ
กอย่
างครบครั
ทั้
ง รสเปรี้
ยว หวาน มั
น เค็
ม อุ
ดมไป
ด้
วยวิ
ตามิ
น และแร่
ธาตุ
ให้
คุ
ณค่
าแก่
ร่
างกาย โดยเฉพาะนำ
�มากิ
นแกล้
มผั
ก.
เรื
อง
ปิ
ยภั
ทร นั
นทนรเศรษฐ์
, กมลพร สุ
นทรสี
มะ
1,2,3,4,5,6 8,9,10,11,12,13,14,15,16,17,...40