28
สิ่
งเหล่
านี้
ถู
กออกแบบมาเหมื
อนกั
น มี
ต้
นตอมาจากจุ
ดก�
ำเนิ
ด
เดี
ยวกั
นแต่
เมื่
อผ่
านกาลเวลาที่
ยาวนาน ไปท�
ำหน้
าที่
ที่
แตกต่
างกั
น
ท�
ำให้
รู
ปแบบของมั
นถู
กคั
ดเลื
อกและพั
ฒนามาในที่
สุ
ด
และค�
ำตอบนี้
ได้
รั
บการยื
นยั
นในปี
ค.ศ. 2006 จากการ
ค้
นพบอะไรบางอย่
างของ นี
ล ชู
บิ
น (Neil Shubin)
ก่
อนอื่
นขอเล่
าย้
อนไปในปี
ค.ศ. 1881 กั
นก่
อน ในปี
นั้
น
ที่
ประเทศแคนาดา ได้
มี
การค้
นพบฟอสซิ
ลของปลา ยู
สตี
นอพธี
รอน
(Eusthenopteron) ปลาโบราณที่
มี
ชี
วิ
ตอยู
่
เมื่
อประมาณ 380
ล้
านปี
ที่
แล้
ว พบว่
าภายในครี
บของมั
นมี
การเรี
ยงตั
วของกระดู
ก
แบบหนึ่
งชิ้
นหลั
กแล้
วต่
อกั
บอี
กสองชิ้
น แต่
ยั
งไม่
เจอชิ้
นเล็
กๆ
กั
บแท่
งๆ
ต่
อมาในปี
ค.ศ. 1920 ก็
มี
การค้
นพบสั
ตว์
โบราณที่
เป็
น
ข่
าวดั
งไปทั่
วโลก คื
อ อิ
กไธโอสตี
กา (Ichthyostega) ซึ่
งมี
ชี
วิ
ตอยู่
เมื่
อ 360 ล้
านปี
ที่
แล้
ว สั
ตว์
ชนิ
ดนี้
จะเป็
นปลาก็
ไมใช่
จะเป็
นสั
ตว์
สะเทิ
นน�้
ำสะเทิ
นบกก็
ไม่
เชิ
ง มั
นมี
หั
วและหางเหมื
อนปลา แต่
มี
ขาสี่
ขา และกระดู
กขาก็
เป็
นโครงสร้
างแบบหนึ่
งชิ้
นต่
อด้
วยสอง
ชิ้
นตามด้
วยชิ้
นเล็
กๆ และแท่
งๆ อย่
างสมบู
รณ์
หลั
งจากนั้
นอี
ก
68 ปี
ให้
หลั
ง มี
การค้
นพบฟอสซิ
ลสั
ตว์
โบราณที่
มี
ลั
กษณะกึ่
งปลา
กึ่
งสั
ตว์
สะเทิ
นน�้
ำสะเทิ
นบกอี
กหนึ่
งชนิ
ด ชื่
อว่
า อะแคนโตสตี
กา
(Acanthostega) ซึ่
งมี
รู
ปแบบโครงกระดู
กขาคล้
ายกั
บ
อิ
กไธโอสตี
กา แต่
กระดู
กเหล่
านั้
นอยู่
ภายในครี
บ
แม้
นั
กวิ
ทยาศาสตร์
จะเชื่
อว่
า ยู
สตี
นอพธี
รอน เป็
น
บรรพบุ
รุ
ษของ อะแคนโตสตี
กา กล่
าวคื
อ ในยู
สตี
นอพธี
รอน
กระดู
กครี
บเป็
นแบบ หนึ่
งชิ้
นต่
อด้
วยสองชิ้
นแต่
ยั
งไม่
มี
ลั
กษณะ
เม็
ดเล็
กกั
บแท่
งให้
เห็
น ส่
วนในอะแคนโตสตี
กามี
ลั
กษณะหนึ่
งชิ้
น
มื
อที่
มอง (ไม่
) เห็
น :
วิ
วั
ฒนาการจากครี
บปลาสู่
ขาคน และเหตุ
ผลของธรรมชาติ
มื
อ
ถื
อเป็
นอวั
ยวะที่
ส�
ำคั
ญอั
นดั
บต้
นๆ ของร่
างกายคนเรา
ก็
ว่
าได้
ไม่
ว่
าจะพิ
มพ์
งาน วาดภาพ เขี
ยนหนั
งสื
อ เล่
นดนตรี
ขั
บรถ ฯลฯ เกื
อบทุ
กกิ
จกรรมในชี
วิ
ตประจ�
ำวั
น ล้
วนต้
องเกี่
ยวข้
อง
กั
บอวั
ยวะชิ้
นนี้
แต่
คงมี
น้
อยคนที่
จะรู้
ที่
มาที่
ไปของมั
น
มื
อของเรามาจากไหน และท�
ำไมถึ
งมี
ความส�
ำคั
ญมาก
ขนาดนี้
?
On theNatureof Limbs โดยริ
ชาร์
ด โอเวน (RichardOwen)
เป็
นหนั
งสื
อที่
พิ
มพ์
ขึ้
น ก่
อนที่
On the Origin of Species ของ
ชาร์
ลส์
ดาร์
วิ
น (Charles Darwin) บิ
ดาแห่
งทฤษฎี
วิ
วั
ฒนาการ
จะตามมาในอี
ก 10 ปี
ให้
หลั
ง หนั
งสื
อเล่
มแรกนั้
นว่
าด้
วยเรื่
องราว
การเปรี
ยบเที
ยบร่
างกายของสั
ตว์
ต่
างๆ โดยเฉพาะโครงกระดู
ก
สิ่
งที่
ริ
ชาร์
ด โอเวน (Richard Owen) ค้
นพบก็
คื
อ อวั
ยวะของ
สั
ตว์
จ�
ำนวนมาก ไม่
ว่
าจะเป็
น ปี
กนก ขากบ ครี
บปลา หรื
อ
แม้
กระทั่
งแขนคน ทั้
งหมดล้
วนมี
โครงกระดู
กที่
เป็
นแบบแผน
เดี
ยวกั
น คื
อเริ่
มต้
นจากกระดู
กหนึ่
งท่
อน ต่
อด้
วยกระดู
กสองท่
อน
ต่
อด้
วยกระดู
กชิ้
นเล็
กๆ แล้
วจบด้
วยกระดู
กแบบแท่
ง
ไม่
ใช่
แค่
มองเห็
นความเหมื
อนในสิ่
งที่
แตกต่
าง แต่
เขาคิ
ด
ต่
อไปว่
า นี่
ไม่
น่
าจะเป็
นแค่
เรื่
องบั
งเอิ
ญ
หนึ่
งชิ้
น – สองชิ้
น – ชิ้
นเล็
ก – แท่
ง แบบแผนเช่
นนี้
เป็
น
เสมื
อนพิ
มพ์
เขี
ยว ที่
ปรากฏให้
เห็
นอยู
่
เสมอในรู
ปร่
างลั
กษณะ
ภายนอกที่
หลากหลาย ด้
วยโครงสร้
างนี้
หากเราอยากสร้
างปี
ก
ค้
างคาวก็
ท�
ำได้
โดยการยื
ดแท่
งออกมาให้
ยาวขึ้
น อยากได้
ครี
บ
ปลาก็
หดกระดู
กหลั
ก และอี
กสองชิ้
นที่
ต่
อให้
เล็
กลง
สิ่
งที่
น่
าสนใจก็
คื
อท�
ำไมธรรมชาติ
ถึ
งให้
โครงสร้
างที่
เหมื
อนกั
น
มาท�
ำหน้
าที่
แตกต่
างกั
น ค�
ำสั
นนิ
ษฐานที่
เป็
นไปได้
ก็
คื
อ หรื
อเดิ
มที
เรื
่
อง : ศุ
ภกานต์
ครองสิ
นทรั
พย์
/ พาฝั
น พลเยี
่
ยม
มื
อดี