อ่อนหัตถ์ - page 29

29
ต่
อด้
วยสองชิ้
นตามด้
วยเม็
ดเล็
กและแท่
งอย่
างสมบู
รณ์
แต่
ก็
ยั
ขาดหลั
กฐานฟอสซิ
ลของสั
ตว์
ในช่
วงรอยต่
อตรงนี้
จนมาถึ
งปี
ค.ศ. 2004 นี
ล ชู
บิ
น ก็
ค้
นพบ ทิ
กทาลิ
ก(Tiktaalik) สั
ตว์
ที่
มี
กระดู
หนึ่
งชิ้
นตามด้
วยสองชิ้
นและเริ่
มมี
กระดู
กแท่
งๆ ให้
เห็
น มี
หั
วแบน
ตาอยู่
ด้
านบน และพบในชั้
นหิ
นอายุ
ประมาณ 375 ล้
านปี
เป็
สั
ตว์
ในช่
วงรอยต่
อของวิ
วั
ฒนาการตามที่
คาดไว้
นี
ล ชู
บิ
น ได้
ใช้
เวลาศึ
กษาเพิ่
มเติ
มอี
กสองปี
ก่
อนที่
จะตี
พิ
มพ์
และเป็
นข่
าวโด่
ดั
งในปี
ค.ศ. 2006
ต่
อมาจึ
งค่
อยเปลี่
ยนเป็
นการเดิ
นสองขาแบบในปั
จจุ
บั
น แล้
การเดิ
นสองขาช่
วยอะไร ลั
กษณะนี้
ถึ
งได้
ถู
กคั
ดเลื
อกมา ประการ
แรกคื
อการประหยั
ดพลั
งงาน ในยุ
คที่
ของกิ
นยั
งไม่
ได้
มี
ขาย
ตามร้
านสะดวกซื้
อ การกิ
นครั้
งหนึ่
งแล้
วเก็
บพลั
งงานไว้
ใช้
ได้
นานๆ เป็
นเรื่
องที่
จ�
ำเป็
น และการเดิ
นสองขาก็
เป็
นการใช้
พลั
งงานน้
อยกว่
าการเดิ
นสี่
ขา ประการที่
สอง การเดิ
นสองขา
จะช่
วยลดการสู
ญเสี
ยความร้
อน หากนึ
กภาพตาม ลิ
งที่
เดิ
นสี่
ขา
เวลาเดิ
นช่
วงอกและท้
องจะขนานไปกั
บพื้
น พื้
นดิ
นในตอน
กลางวั
นที่
เก็
บกั
กความร้
อนไว้
ท�
ำให้
ช่
วงท้
องของลิ
งได้
รั
บไอร้
อน
อย่
างเต็
มที่
แต่
เมื่
อเปลี่
ยนมาเดิ
นสองขา เราก็
จะสู
ญเสี
ความร้
อนออกจากร่
างกายน้
อยลง แถมยั
งเป็
นการยกต�
ำแหน่
ของสมองให้
สู
งขึ้
นมารั
บอากาศที่
ปลอดโปร่
งกว่
า และประการ
สุ
ดท้
าย แน่
นอนว่
าเมื่
อเราเดิ
นสองขา เราจะมี
มื
อที่
ว่
างเกิ
ดขึ้
นมา
เมื่
อมี
ที่
ว่
างเกิ
ดขึ้
น พวกเขาจึ
งสามารถใช้
สองมื
อนี้
ในการ
ขนอาหารกลั
บถ�้
ำได้
มากขึ้
น ใช้
มื
อในการเพาะปลู
กสร้
างแหล่
อาหารขึ้
นมาเอง ใช้
สร้
างเครื่
องไม้
เครื่
องมื
อมาทุ
นแรง ใช้
สร้
าง
ความผู
กพั
นความห่
วงใยความรั
กตลอดจนสร้
างขนบธรรมเนี
ยม
ประเพณี
สร้
างวั
ฒนธรรม และส่
งต่
อสิ่
งเหล่
านี้
มาจนถึ
งเราใน
ถึ
งปั
จจุ
บั
ธรรมชาติ
ให้
มื
อเรามาก็
จริ
ง แต่
การลงมื
อท�
ำอะไรสั
กอย่
าง
เป็
นสิ่
งที่
เราต้
องเลื
อกเอง
ถึ
งตรงนี้
อยากให้
ทุ
กคนลองมองไปที่
มื
อของตั
วเอง แล้
ใช้
นิ้
วโป้
งแตะไปที่
ปลายนิ้
วอื่
นๆ อี
กสี่
นิ้
ว รู
สึ
กอะไรไหม เมื่
สั
กครู
คุ
ณได้
ท�
ำสิ่
งที่
มหั
ศจรรย์
มากเลยนะ เพราะในบรรดาสิ่
มี
ชี
วิ
ตต่
างๆ ที่
เกิ
ดขึ้
นมาบนโลกในสามพั
นห้
าร้
อยล้
านปี
ที่
ผ่
านมา
มี
แค่
สั
ตว์
เลี้
ยงลู
กด้
วยนมกลุ
มไพรเมตเท่
านั้
นที่
นิ้
วโป้
งของเรา
สามารถพั
บเข้
าหาฝ่
ามื
อได้
และมี
แค่
มนุ
ษย์
เท่
านั้
น ที่
สามารถ
ใช้
นิ้
วโป้
งไปแตะปลายนิ้
วอื่
นๆ ได้
ครบทุ
กนิ้
ว นี่
เป็
นสิ่
งที่
ท�
ำให้
เราท�
ำงานที่
ละเอี
ยดอ่
อนได้
และท�
ำให้
ไม่
มี
สั
ตว์
ชนิ
ดใดในโลก
ที่
แกะสลั
ก พั
บกระดาษ วาดรู
ป ท�
ำอาหาร หรื
อโซโล่
กี
ต้
าร์
ได้
เก่
เท่
าเรา
จากครี
บปลาที่
ดู
เหมื
อนแค่
แผ่
นเนื้
อเยื่
อธรรมดา เอาไว้
ใช้
ตวั
ดน�้
ำไปมา แท้
จริ
งแล้
วมั
นคื
อต้
นแบบที่
ต่
อมาได้
พั
ฒนามาเป็
โครงสร้
างต่
างๆ มากมาย ขาของเสื
อชี
ต้
าร์
ที่
ใช้
วิ่
ง ปี
กของนกที่
ใช้
บิ
น ไปจนถึ
งมื
อของคนที่
ใช้
เขี
ยนหนั
งสื
อ แต่
โครงสร้
างที่
มี
แค่
กระดู
ก เส้
นประสาท และหลอดเลื
อด ท�
ำไมถึ
งกลายมาเป็
อวั
ยวะส�
ำคั
ญที่
แสดงถึ
ง การท�
ำงาน ความสามารถ และสื่
อถึ
ความเป็
นมนุ
ษย์
ได้
มากกว่
าอวั
ยวะอื่
นๆ
เพื่
อจะเข้
าใจมื
อให้
มากขึ้
น เราอาจต้
องไปดู
ที่
ขา
เมื่
อ 6 ล้
านปี
ที่
แล้
ว ในยุ
คที่
ลิ
งทั้
งหมดอาศั
ยอยู
บนต้
นไม้
อุ
ณหภู
มิ
ของโลกได้
มี
การเปลี่
ยนแปลง อากาศที่
เย็
นและแห้
ของทวี
ปแอฟริ
กาก็
ส่
งผลให้
พื้
นที่
ป่
าลดลง และเริ่
มถู
กแทนที่
ด้
วย
ทุ่
งหญ้
ามากขึ้
น ลิ
งบรรพบุ
รุ
ษของเราจึ
งมี
ทางเลื
อกอยู่
2 ทางคื
เข้
าไปอยู
ในป่
าที่
ลึ
กขึ้
นหรื
อลงมาอยู
ในทุ
งหญ้
าให้
ได้
และแน่
นอน
ถ้
าลิ
งเหล่
านั้
นไม่
เลื
อกอย่
างหลั
ง คงเป็
นเรื่
องที่
ยากจะจิ
นตนาการ
ว่
าโลกทุ
กวั
นนี้
จะเป็
นอย่
างไร
จากการศึ
กษาข้
อมู
ลในยุ
คนั้
น เชื่
อกั
นว่
า สาเหตุ
หนึ่
งคงเป็
เพราะบรรพบุ
รุ
ษเของเราอาศั
ยอยู
บริ
เวณขอบป่
า จึ
งมี
การลงจาก
ต้
นไม้
มาเดิ
นบนพื้
นราบบ้
างเป็
นครั้
งคราว แต่
เมื่
อสภาพแวดล้
อม
บี
บบั
งคั
บมากขึ้
น การคั
ดเลื
อกตามธรรมชาติ
จึ
งเกิ
ดขึ้
ลิ
งที่
สามารถใช้
ชี
วิ
ตบนพื้
นดิ
นได้
จึ
งได้
ครอบครองพื้
นที่
อั
มี
มากกว่
ในตอนแรกนั้
น ลิ
งที่
ลงมาจากต้
นไม้
ก็
ยั
งคงเดิ
นสี่
ขาอยู
1...,19,20,21,22,23,24,25,26,27,28 30,31,32,33,34,35,36,37,38,39,...48
Powered by FlippingBook