งานปรับปรุงพระที่นั่งหมู่หลังพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทขั้นที่ ๓ คือการรื้อพระที่นั่งบรมราชสถิตยมโหฬาร เพื่อดำเนินการก่อสร้างใหม่ กำหนดที่จะดำเนินการเมื่อได้ดำเนินการขั้นที่ ๒ สำเร็จลงแล้ว แต่เนื่องจาก คณะกรรมการพิจารณาจัดวางแผนผังและซ่อมสร้างพระราชฐาน ได้ตรวจพิจารณาสภาพขององค์พระที่นั่ง ที่ชำรุดทรุดโทรม และได้พบว่าเสาชั้นล่างซึ่งเป็นเสาก่ออิฐแตกแยกและโป่งออกทางด้านข้าง แสดงว่าปูนก่ออิฐ หมดกำลังยึดเหนี่ยว น้ำหนักขององค์พระที่นั่งมีมาก เสามีความมั่นคงแข็งแรงไม่พอที่จะทานน้ำหนักส่วนบนได้ จึงแตกแยกออก และเป็นผลทำให้พื้นชั้นบนทรุด ผนังแตกร้าว จึงได้รายงานเสนอความเห็นต่อสำนักพระราชวังว่า ควรที่จะรื้อลงเสียโดยเร็ว เพราะสภาพความชำรุดที่ประจักษ์อยู่นั้นเป็นสภาพที่น่ากลัวอันตราย เนื่องจากอาจถึงขีด ที่จะพังลงได้โดยง่าย สำนักพระราชวังจึงได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาของพระราชทานพระบรมราชานุญาต รื้อเมื่อได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตแล้ว จึงรีบดำเนินการรื้อลงตั้งแต่เมื่อ เดือนสิงหาคม พุทธศักราช ๒๔๑๐ และในขณะนี้ยังมิได้มีการก่อสร้างพระที่นั่งองค์ใหม่ขึ้นแทนหม่อมเจ้าสมัยเฉลิม กฤดากร ซึ่งในปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักพระราชวังฝ่ายการซ่อมสร้าง กำลังพิจารณาออกแบบอยู่
การสร้างพระที่นั่งบรมราชสถิตยมโหฬารองค์ใหม่นี้ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานกระแส พระราชดำริมาเพื่อประกอบการออกแบบก่อสร้างว่า การพระราชทานเลี้ยงเพื่อเป็นเกียรติแก่ประมุขของนานาประเทศ ที่เข้ามาเยี่ยมประเทศไทยเป็นทางราชการนั้นจำเป็นที่จะต้องเชิญพระราชวงศ์ องค์มนตรี บุคคลในคณะรัฐบาล ข้าราชการผู้ใหญ่ทั้งฝ่ายทหารและพลเรื่อง คณะทูตานุทูต ผู้แทนนานาประเทศในประเทศไทย และบรรดา ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับองค์ประมุขของประเทศที่มาเยือนโดยทั่วถึง ในปัจจุบันทั้งที่ได้เชิญโดยจำกัด ก็มีจำนวนถึง ๑๗๐ กว่าคน ต่อไปอาจต้องเชิญมากขึ้น ห้องพระราชทานเลี้ยงที่พระที่นั่งมูลสถานบรมอาสน์จุคนได้อย่าง ยัดเยียดเพียง ๑๐๐ คน ต้องจัดท้องพระโรงกลางเป็นห้องพระราชทานเลี้ยงอีกห้องหนึ่งจึงจะพอ แต่การจัดสถานที่ แยกเลี้ยงดังนี้ไม่เป็นการถูกต้องและเหมาะสม ฉะนั้น ในโอกาสที่จะสร้างพระที่นั่งบรมราชสถิตยมโหฬารขึ้นใหม่ ก็ควรจัดให้มีห้องพระราชทานเลี้ยงให้เหมาะสม ให้สามารถจัดเลี้ยงแบบ Dinner ได้ในระหว่าง ๒๐๐ คน ถึง ๒๕๐ คน
สถาปนิกผู้คิดแบบรับกระแสพระราชดำริไว้เหนือเกล้าฯ และกำลังพิจารณาออกแบบพระที่นั่ง บรมราชสถิตยมโหฬาร ให้มีสภาพดังพระราชประสงค์อยู่
อนึ่ง คณะกรรมการพิจารณาจัดว่าแผนผังและซ่อมสร้างพระราชฐานได้พิจารณาเห็นว่า บรรดาตำหนัก และอาคารต่างๆ ในเขตพระราชฐานชั้นในนั้น สร้างขึ้นอย่างอัดแอเพื่อให้เพียงพอกับพระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายใน และข้าบาทบริจาในองค์สมเด็จพระมหากษัตริยาธิราชเจ้าในกลางก่อนซึ่งมีอยู่มาก มาในปัจจุบันหมดความจำเป็น ที่จะต้องมีที่ประทับสำหรับฝ่ายในมากเช่นนั้นแล้ว ประกอบทั้งตำหนักและอาคารต่างๆ ในพระบรมมาหาราชวังชั้นใน ก็ชำรุดทรุดโทรมลงมาก บางอาคารก็ใกล้จะพัง ถ้าจะซ่อมให้ดีคงตามสภาพเดิมก็ย่อมเป็นการสิ้นเปลืองและไม่เกิด ประโยชน์อันใด จึงวางโครงการที่จะรื้อลงจัดตกแต่งเบื้องหลังที่พระที่นั่งบรมราชสถิตยมโหฬารที่จะสร้างใหม่ ให้เป็นพระราชอุทยาน ซึ่งอาจใช้ในการจัดงานพระราชอุทยานสโมสร หรืองานอื่นๆ เช่น อาจเชิญแขกเมือง ลงชมการแสดงต่างๆ ภายหลังการพระราชทานเลี้ยงได้ด้วย