สารบัญ
“พี่จันทรา”- “กรมหลวงวรศักดา”
“พี่จันทรา” (พระองค์เจ้าหญิงจันทราสรัทวาร)

ประสูติเมื่อวันอังคาร เดือน ๕ แรม ๓ ค่ำ ปีระกา เบญจศก จุลศักราช ๑๒๓๕ ตรงกับวันที่ ๑๕ เมษายน พ.ศ. ๒๔๑๖ ลำดับที่ ๘ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

ในปีชวด พ.ศ. ๒๔๓๑ รัชกาลที่ ๕ ได้เฉลิมพระยศเป็น สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจันทราสรัทวาร- วโรฬารลักษณสมบัติรัตนกุมารี มีพระนามตามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจันทราสรัทวาร วโรฬารลักษณ์สมบัติรัตนกุมารี อรรคบริวารทรงศักดินา ๒๐,๐๐๐ ตามอย่าง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าในพระราชกำหนดใหม่

สิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ ๕ เมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๔๗ พระชันษา ๓๓ ปี เมื่อสิ้นพระชนม์ แล้ว รัชกาลที่ ๕ โปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาขึ้นเป็น สมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนพิจิตรเจษฎ์จันทร์ ใน พ.ศ. ๒๔๔๗

มีพระบรมราชโองการ ดำรัสสั่งให้สถาปนา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจันทราสรัทวาร วโรฬารลักษณสมบัติรัตนกุมารีเปนเจ้าฟ้าต่างกรมฝ่ายใน มีพระนามตามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจันทราสรัมวาร วโรฬารลักษณสมบัติรัตนกุมารี กรมขุนพิจิตรเจษฎ์จันทร์

พระชันษา ๓๓ ปี

พระมารดาคือ หม่อมเจ้าเสาวภาคย์นารีรัตน์ ซึ่งรัชกาลที่ ๕  ทรงสถาปนาเปนพระอัครชายาเธอ พระองค์เจ้าเสาวภาคย์นารีรัตน์ (ทรงเป็นธิดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นภูมินทรภักดี และเจ้าจอมมารดาจีน)

“พี่สุวภักตรวิไลยพรรณ” หรือ “พี่กลาง” (พระองค์เจ้าหญิงสุวพักตร์วิไลยพรรณ)

ประสูติเมื่อวันศุกร์ เดือน ๖ ขึ้น ๖ ค่ำ ปีระกา เบญจศก จุลศักราช ๑๒๓๕ ตรงกับวันที่ ๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๑๖ ลำดับที่ ๑๐ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

สิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ ๗ เมื่อวันพุธ เดือน ๙ ขึ้น ๕ ค่ำ ปีมะเมีย โทศก จุลศักราช ๑๒๙๒ ตรงกับวันที่ ๓๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๓

พระชันษา  ๕๗  ปี

ที่ ๒ ในเจ้าคุณพระประยุรวงศ์

“พี่หญิงสุทธาทิพย์รัตน์” (สมเด็จเจ้าฟ้าหญิงสุทธาทิพยรัตน์ สุขุมขัตติยกัลยาวดี)

ประสูติเมื่อวันศุกร์ เดือน ๑๐ ขึ้น ๗ ค่ำ ปีฉลู นพศก จุลศักราช ๑๒๓๙ ตรงกับวันที่ ๑๔ กันยายน พ.ศ. ๒๔๒๐ ลำดับที่ ๒๐ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

ในปีเถาะ เบญจศก จุลศักราช ๑๒๕๖ พ.ศ. ๒๔๔๖ รัชกาลที่ ๕ ทรงสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จเจ้าฟ้า กรมหลวงศรีรัตนโกสินทร

จึงมีพระบรมราชโองการดำรัสสั่งให้สถาปนาสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสุทธาทิพยรัตน์ สุขุมขัตติยกัลยาวดี เปนสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าต่างกรม มีพระนามตามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสุทธาทิพยรัตน์ สุขุมขัตติยกัลยาวดี กรมหลวงศรีรัตนโกสินทร์ อรรคบริวาร ทรงศักดินา ๔๐,๐๐๐ ตามพระราชกำหนดอย่างสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าต่างกรมฝ่ายใน

เจ้ากรม เปนหลวงศรีรัตนโกสินทร ถือศักดินา ๘๐๐
ให้ทรงตั้ง ปลัดกรม เปนขุนนครเขื่อนธสิมา ถือศักดินา  ๖๐๐
สมุหบาญชี เปนหมื่นนนทประชาภิบาล ถือศักดินา ๓๐๐

สิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ ๖ เมื่อวันอังคาร เดือนยี่ แรม ๑ ค่ำ ปีจอ จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๘๔ ตรงกับวันที่ ๒ มกราคม พ.ศ. ๒๔๖๕

พระชันษา  ๔๖ ปี

ที่ ๑ ในสมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี

“เสด็จอาทองแถม” (พระองค์เจ้าชายทองแถมถวัลยวงค์)

ประสูติเมื่อวันเสาร์ เดือน ๑๑ แรม ๑๔ ค่ำ ปีมะเส็ง จุลศักราช ๑๒๑๙ ตรงกับวันที่ ๑๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๐๐ ลำดับที่ ๓๔ ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

ใน พ.ศ. ๒๔๓๑ รัชกาลที่ ๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เฉลิมพระยศสถาปนาขึ้นเป็นกรมหมื่น

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ ฯ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชดำริว่า พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าทองแถมถวัลยวงศ์ ทรงพระปรีชาชำนาญในการช่างต่างๆ  ประกอบด้วยพระอุตสาหะ อันยิ่งใหญ่มิได้ย่อหย่อน ได้ทรงรับทำการอันใดก็ตั้งพระหฤทัยทำการสั่งนั้นให้สำเร็จได้ตามกำหนดมิได้พลาดพลั้ง เมื่อครั้งปฏิสังขรณ์วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ได้ทรงรับหน้าที่ประดับกระเบื้องทรงพระศรีรัตนเจดีย์ มีกำหนดน้อย วันมีผู้เห็นโดยมากกว่าการจะไม่ทันกำหนดฉลองพระอาราม ก็ทรงพระอุตสาหะทำการสำเร็จได้ดังพระราชประสงค์ จึงได้โปรดเกล้าฯ จะให้เปนพระองค์เจ้าต่างกรมแต่นั้นมา แต่การยังหาพรักพร้อมไม่ ต่อนั้นมาได้ทรงรับราชการ บังคับช่างต่างๆ ทำการในพระบรมมหาราชวังชั้นใน ทรงทำการด้วยพระหัตถ์ในการประณีตต่างๆ ทั้งกลางคืน กลางวันมิได้เว้นว่างส่วนราชการอย่างอื่นได้ทรงเปนพนักงานทำการที่พระราชวังบางปะอิน และสวนสราญรมย์ ทรงจัดการในที่สองสถานนั้นเปนการเรียบร้อยเจริญขึ้นเปนอันมาก ทั้งการด้านทำการโยธาที่เปนการใหญ่ๆ ก็ ได้ทรงทำเปนหลายแห่ง คือพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย และวัดราชบพิธเปนต้น การทั้งนั้นก็สำเร็จได้ดังพระราช ประสงค์ ใช่แต่เท่านั้นเมื่อได้ดำรงตำแหน่งราชองค์รักษ์ ก็ต้องเสด็จมาประจำเวรในพระบรมมหาราชวัง และ ตามเสด็จพระราชดำเนินประพาสหัวเมืองด้วยทุกตำบล และทรงบังคับครัวหัวป่า ครัวข้าวต้น มีราชการพัวพัน อยู่เปนนิจ ได้ทรงรับราชการสนิทในที่ไว้วางพระราชหฤทัยเปนอันมาก บัดนี้ก็มีพระชนมายุเจริญวัย ประกอบ ด้วยคุณวุฒิดังกล่าวมาแล้วนั้น จึงเปนสมัยอันสมควรที่จะเลื่อนพระเกียรติยศขึ้นเปนพระองค์เจ้าต่างกรมพระองค์ หนึ่งได้

จึ่งมีพระบรมราชโองการมานพระบัณฑูรสุรสิงหนาท ดำรัสสั่งให้สถาปนาพระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าทองแถมถวัลยวงศ์ขึ้นเปนพระองค์เจ้าต่างกรม มีพระนามตามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นสรรพสาตรศุกกิจ อัชนามทรงศักดินา ๑๕,๐๐๐ ตามพระราชกำหนด อย่างพระองค์เจ้าต่างกรมในพระบรมมหาราชวัง

เจ้ากรม เปนหมื่นสรรพสาตรศุภกิจ ถือศักดินา ๖๐๐
ให้ทรงตั้ง ปลัดกรม เปนหมื่นวิจิตรศุภวิจารณ์ ถือศักดินา  ๔๐๐
สมุหบาญชี เปนหมื่นบริหารนิกร ถือศักดินา ๓๐๐

ในปีมะแม พ.ศ. ๒๔๔๘ รัชกาลที่ ๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนพระยศเฉลิมพระนาม กรมขึ้นเป็นกรมขุน

จึงมีพระบรมราชโองการดำรัสสั่งให้สถาปนาเลื่อน พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นสรรพสาตรศุภกิจ ขึ้นเปนพระองค์เจ้าต่างกรมผู้ใหญ่มีพระนามตามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า พระเจ้าน้องยาเธอ กรมขุนสรรพสาตรศุภกิจ อัชนาม ทรงศักดินา ๑๕,๐๐๐ ตามพระราชกำหนดอย่างพระองค์เจ้าต่างกรม ในพระบรมมหาราชวัง

เจ้ากรม เปนขุนสรรพสาตราศุภกิจ ถือศักดินา ๖๐๐
ให้ทรงเลื่อน ปลัดกรม คงเปนหมื่นวิจิตรศุภวิจารณ์ ถือศักดินา  ๔๐๐
สมุหบาญชี เปนหมื่นบริหารนิกร ถือศักดินา ๓๐๐

ในปีชวด พ.ศ. ๒๔๕๕ รัชกาลที่ ๖ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้เลื่อนกรมขึ้นเป็นกรมหลวง

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาวชิราวุธ ฯ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชดำริว่า พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนสรรพสาตรศุภกิจ ได้ทรงรับราชการในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในการช่างต่างๆ ซึ่งเปนราชการในพระองค์ เปนที่ต้องพระราชหฤทัยประสงค์มาช้านาน ดังมีข้อความพิสดาร อยู่ในประกาศตั้งกรมนั้นแล้ว ต่อนั้นมาเมื่อหลายรัตนโกสินทร์ศก ๑๒๕ ก็ได้โดยเสด็จพระราชดำเนินประพาส ประเทศยุโรปเปนครั้งที่ ๒ และได้รับราชการในการช่างต่างๆ ต่อมาจนสิ้นรัชกาล มาในรัชกาลปัตยุบันนี้ก็ได้ ทรงรับราชการในหน้าที่เช่นนั้นมาโดยสม่ำเสมอมิได้ทรงท้อถอย มีราชการอันใดที่เปนการเร่งร้อนเช่นทรงรับ ซ่อมพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน พระที่นั่งไพศาลทักษิณ ให้แล้วทันงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกผ่านพิภพ และซ่อมพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระที่นั่งดุสิตภิรมย์และซ่อมชำระพระเบญจาบุษบกทองคำทั้งพระพุทธรุป และเครื่องทองภายในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตรศาสดาราม อันเปนการเนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภช และทรงรับทำพระเบญจาทองคำที่ได้ประดิษฐานพระโกศพระบรมศพ และพระพิมานทองคำลงยาที่ได้ประดิษฐาน พระบรมอัฐพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕ การเหล่านี้ล้วนมีกำหนวันให้แล้ว และบางอย่างมีกำหนด เวลาอันน้อยด้วย ก็ได้ทรงพระอุตสาหะรับฉลองพระเดชพระคุณให้สำเร็จสมพระราชประสงค์ทุกประการ ทั้งนี้ก็อาศัยที่ทรงมีความจงรักภักดีต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทโดยมั่นคง

จึงมีพระบรมราชโองการ ดำรัสสั่งให้เลื่อนพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนสรรพสาตรศุกกิจ ขึ้นเปนกรมหลวง มีพระนามตามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสรรพสาตรศุภกิจ อัชนาม ทรงศักดินา ๑๕,๐๐๐ ตามพระราชกำหนดอย่างพระองค์เจ้าต่างกรมในพระบรมมหาราชวัง

เจ้ากรม เปนหลวงสรรพสาตรศุภกิจ ถือศักดินา ๘๐๐
ให้ทรงเลื่อน ปลัดกรม เปนขุนวิจิตรศุภวิจารณ์ ถือศักดินา  ๖๐๐
สมุหบาญชี คงเปนหมื่นบริหารนิกร ถือศักดินา ๔๐๐

สิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ ๖ เมื่อวันพุธ เดือน ๕ แรม ๑ ค่ำ ปีมะแม เอกศก จุลศักราช ๑๒๘๑ ตรงกับวันที่ ๑๖ เมษายน พ.ศ. ๒๔๖๒

พระชันษา ๖๓ ปี

ทรงเป็นต้นราชสกุล  ทองแถม

ที่ ๒ ในเจ้าจอมมารดาสังวาล

“สมเด็จป้า” (พระองค์เจ้าหญิงสุนันทากุมารีรัตน์)

ประสูติเมื่อวันเสาร์ เดือน ๑๒ แรม ๑๒ ค่ำ ปีวอก โทศก จุลศักราช ๑๒๒๒ ตรงกับวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๐๓ ลำดับที่ ๕๐ ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

รัชกาลที่ ๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ เฉลิมพระยศขึ้นเป็น สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี พระอัครมเหสี

สิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ ๕ เมื่อวันจันทร์ เดือน ๗ แรม ๘ ค่ำ ปีมะโรง โทศก จุลศักราช ๑๒๔๒ ตรงกับวันที่ ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๒๓ ด้วยเหตุเรือพระที่นั่งล่มที่บางพูด

พระชันษา ๒๑ ปี

ที่ ๓ ในสมเด็จพระปิยมาวดี

“น้องชายกลาง” (สมเด็จเจ้าฟ้าชายตรีเพ็ชรุฒม์ธำรง นริศวงศ์เทวราช วโรภโตชาตพิสุทธิ์ รัตนบุรุษย์จุฬาลงกรณ์ บดินทรเทพยวโรรส อดุลยยศ วิสุทธิกษัตริย์ ขัตติยราชกุมาร)

ประสูติเมื่อวันพุธ เดือน ๓ แรม ๕ ค่ำ ปีมะเส็ง ตรีศก จุลศักราช ๑๒๔๓ ตรงกับวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๒๔ ลำดับที่ ๓๙ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

สิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ ๕ เมื่อวันอังคาร เดือนอ้าย ขึ้น ๗ ค่ำ ปีกุน นพศก จุลศักราช ๑๒๔๙ ตรงกับวันที่ ๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๓๐

พระชันษา ๗ ปี

ที่ ๓ ในสมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนาถ

“น้องหญิง” (สมเด็จเจ้าฟ้าหญิงวไลยอลงกรณ์ นรินทรเทพยกุมารี)

ประสูติเมื่อวันพุธ เดือน ๕ แรม ๖ ค่ำ ปีวอก ฉศก จุลศักราช ๑๒๔๖ ตรงกับวันที่  ๑๖ เมษายน พ.ศ. ๒๔๒๗  ลำดับที่ ๔๘ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

เมื่อปีกุน ตรีศก จุลศักราช ๑๒๗๓ พ.ศ. ๒๔๕๔ รัชกาลที่ ๖ ทรงสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จเจ้าฟ้า กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร

มีพระบรมราชโองการดำรัสสั่งให้สถาปนา สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์เปน สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าต่างกรมมีพระนามตามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ นรินทรเทพยกุมารีกรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร วรรณศรีเปนอาทิอักษร ให้ทรงศักดินา ๕๐,๐๐๐ ตามพระราชกำหนดอย่างสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอเจ้าฟ้าต่างกรมฝ่ายใน

เจ้ากรม เปนหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร ถือศักดินา ๘๐๐
ให้ทรงตั้ง ปลัดกรม เปนขุนปราณนครเขตรพิพัฒน์ ถือศักดินา  ๕๐๐
สมุหบาญชี เปนหมื่นศรีสวัสดิ์พลประมวญ ถือศักดินา ๔๐๐

ในปีกุน สัปตศก จุลศักราช ๑๒๙๗ พ.ศ. ๒๔๗๔ รัชกาลที่ ๘ โปรดเกล้าฯ สถาปนาเฉลิมพระยศ ขึ้นเป็นสมเด็จพระราชปิตุจฉา เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ฯ

สิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ ๘ เมื่อวันอาทิตย์ เดือนยี่ แรม ๑๐ ค่ำ ปีขาล สัมฤทธิศก จุลศักราช ๑๓๐๐ ตรงกับวันที่ ๑๕ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๑

พระชันษา  ๕๔ ปี

ที่ ๕ ในสมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวีฯ

“เสด็จอาเจริญจิตร” (พระองค์เจ้าชายจิตรเจริญ)

ประสูติเมื่อวันอังคาร เดือน ๖ ขึ้น ๑๑ ค่ำ ปีกุล เบญจศก จุลศักราช ๑๒๒๕ ตรงกับวันที่ ๒๘ เมษายน พ.ศ. ๒๔๐๖ ลำดับที่ ๖๓ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

ในปีระกา พ.ศ. ๒๔๒๘ รัชกาลที่ ๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้สถาปนาขึ้นเป็นกรมขุนนริศรานุวัดติวงศ์

มีพระบรมราชโองการมานบัณฑูรสุรสิงหนาท ดำรัสสั่งให้สถาปนาตำแหน่งยศพระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้า จิตรเจริญ เปนพระองค์เจ้าต่างกราม มีพระนามตามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า พระเจ้าน้องยาเธอ กรมขุนนริศรานุวัดติวงศ์ นาคนาม ทรงศักดินา ๑๕,๐๐๐ ตามพระราชกำหนดอย่างพระองค์เจ้าต่างกรมใน พระบรมมหาราชวัง

เจ้ากรม เปนขุนนริศรานุวัติวงศ์ ถือศักดินา ๖๐๐
ให้ทรงตั้ง ปลัดกรม เปนหมื่นจำนงบริรักษ์ ถือศักดินา  ๔๐๐
สมุหบาญชี เปนหมื่นพลพรรคภิบาล ถือศักดินา ๓๐๐

ในปีกุน พ.ศ. ๒๔๓๐ รัชกาลที่ ๕  ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ เฉลิมพระยศขึ้นเป็นเจ้าฟ้า

ในปีมะเส็ง พ.ศ. ๒๔๔๘ รัชกาลที่ ๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ เฉลิมพระยศขึ้นเป็น สมเด็จเจ้าฟ้า กรมหลวง

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ ฯ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชดำริว่า พระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนนริศรานุวัดติวงศ์ จำเดิมแต่ได้ประกาศเมื่อครั้งรับพระสุพรรณบัฏเปน พระองค์เจ้าต่างกรมมา ได้ทรงรับราชการในหน้าที่ราชการอันสำคัญมาเปนอันมาก คือเปนผู้ร่วมพระดำริ ด้วยสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมพระภาณุพันธ์วงศ์วรเดช และพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวง ดำรงราชานุภาพ รวบรวมทหารตั้งกรมยุทธนาธิการ ได้ทรงรับราชการในตำแหน่งใหญ่ในกรมนั้น ภายหลัง ได้รับราชการนอกตำแหน่งทหารเพิ่มเติมออกไป จนเปนตำแหน่งอธิบดีกรมโยธา ได้จัดรวบรวมการทั้งปวง เข้าจนภายหลังยกขึ้นเปนกระทรวงโยธาธิการ ได้ทรงดำรงตำแหน่งเสนาดีกระทรวงนั้นเปนครั้งแรก นับว่าเปนผู้จัดการก่อสร้างตั้งกระทรวงนั้นขึ้นเปนปฐม

ภายหลังเมื่อการพระคลังไม่เรียบร้อย จึงต้องทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ทรงย้าย ตำแหน่งไปเปนเสนาบดีกระทรวงพระคลัง ภายหลังเมื่อจะจัดกระทรวงกลาโหมก็ต้องทรงพระกรุณา โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ทรงย้ายตำแหน่งไปเปนเสนาบดีกระทรวงกลาโหม ภายหลังเปนผู้บัญชาการ กรมยุทธนาธิการด้วย ครั้งเมื่อ ร.ศ. ๑๑๖ เสด็จพระราชดำเนินประเทศยุโรป ได้ทรงรับราชการสนองหน้าที่ ทั้งเปนผู้แทนเสนาบดีกระทรวงพระคลังด้วยจนเสด็จพระราชดำเนินกลับ

ครั้งรัตนโกสินทรศก ๑๑๗  ได้ทรงกลับมารับตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงกลาโหมและเปนผู้สั่ง ตำแหน่งผู้บัญชาการทหารเรือ จนรัตนโกสินทรศก ๑๑๘ จึงได้กลับทรงรับตำแหน่งเสนาบดีกระทรวง โยธาธิการตามเดิม ในศกนี้จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ทรงดำรงตำแหน่งเสนาบดี กระทรวงวัง

จึ่งมีพระบรมราชโองการดำรัสสั่งให้สถาปนา เลื่อนพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนนริศรานุวัดติวงศ์ ขึ้นเปนสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าต่างกรมผู้ใหญ่ มีพระนามตามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัดติวงศ์ นาคนาม ทรงศักดินาเพิ่มขึ้น เปน ๕๐,๐๐๐ เต็มตามพระราชกำหนดอย่างสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าต่างกรมใน พระบรมราชตระกูลอันสูงศักดิ์

เจ้ากรม เปนหลวงนริศรานุวัติวงศ์ ถือศักดินา ๘๐๐
ให้ทรงเลื่อน ปลัดกรม ปลัดกรมเปนขุนจำนงบริรักษ์ ถือศักดินา  ๖๐๐
สมุหบาญชี คงเปนหมื่นพลพรรคภิบาล ถือศักดินา ๓๐๐

ในปีฉลู พ.ศ. ๒๔๕๖ รัชกาลที่ ๖ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เฉลิมพระยศเลื่อนขึ้นเป็น สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระ

มีพระบรมราชโองการดำรัสสั่งให้เลื่อน สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัดติวงศ์ ขึ้นเปนสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ากรมพระ มีพระนามตามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าพระนริศรานุวัดติวงศ์ มหามกุฏพงศ์นฤบดินทร์ ปรมินทรานุชาธิเบนทร ปรเมนทรราชบิตุลา สวามิภักดิ์สยามวิชิตสรรพศิลปสิทธิวิทยาธร สุรจิตรกรศุกโกศล ประพนธปรีชาชาญ โบราณคดี สังคีตวาทิตวิธีวิจารณ์ มโหฬารสีตลัธยาศรัย พุทธาทิไตรรัตนสรณานุวัติ ขัตติยเดชานุภาพบพิตร นาคนาม ทรงศักดินา ๕๐,๐๐๐ ตามพระราชกำหนดอย่างสมเด็จพระบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าต่างกรม ในพระบรมราชตระกูลอังสูงศักดิ์

เจ้ากรม เปนพระนริศรานุวัดติวงศ์ ถือศักดินา ๘๐๐
ให้ทรงเลื่อน ปลัดกรม ปลัดกรมเปนหลวงจำนงบริรักษ์ ถือศักดินา  ๖๐๐
สมุหบาญชี เปนขุนพลพรรคภิบาล ถือศักดินา ๔๐๐

ในปีระกา พุทธศักราช ๒๔๘๘ รัชกาลที่ ๘ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เฉลิมพระยศขึ้นเป็น สมเด็จเจ้าฟ้า กรมพระยา

มีพระบรมราชโองการดำรัสสั่งให้เลื่อนสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้า ฯ กรมพระนริศรานุวัดติวงศ์ ขึ้นเปนสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ากรมพระยามีพระนามตามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้า ฯ กรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ มหามกุฎพงศ์นฤบดินทร์ ปรมินทรานุชาธิเบนทร์ อัฐเมนทรราชอัยยกาสวามิภักดิสยามวิชิต สรรพศิลปสิทธิวิทยาธร สุรจิตรกรศุภโกศล ประพนธปรีชาชาญโบราณคดี สังคีตวาทิตวิธีวิจารณ์ มโหฬารสีตลัธยาสัย พุทธาทิไตรรัตนสรณานุวัตร์ขัติยเดชานุภาพบพิตร นาคนาม ทางศักดินา ๕๐,๐๐๐ ตามพระราชกำหนดอย่างสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าต่างกรมในพระบรมราชตระกูลอันสูงศักดิ์

เจ้ากรม เปนพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ถือศักดินา ๑,๐๐๐
ให้ทรงเลื่อน ปลัดกรม เปนพระจำนงบริรักษ์ ถือศักดินา  ๘๐๐
สมุหบาญชี เปนหลวงพลพรรคภิบาล ถือศักดินา ๕๐๐

ประกาศ ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๘๘ เป็นปีที่ ๑๒ (รัชกาลที่ ๘)

สิ้นพระชนม์ในรัชกาลปัจจุบัน (รัชกาลที่ ๙) เมื่อวันจันทร์ เดือน ๔ แรม ๔ ค่ำ ปีกุน นพศก จุลศักราช ๑๓๐๙ ตรงกับวันที่ ๑๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๙๐

พระชันษา ๘๓ ปี ๑๐ เดือน  ๑๒ วัน

ทรงเป็นต้นราชสกุล จิตรพงศ์

ที่ ๒  ในพระองค์เจ้าพรรณราย

“ดิลกนพรัฐ” (พระองค์เจ้าชายดิลกนพรัฐ)

ประสูติเมื่อวันเสาร์ เดือน ๖ ขึ้น ๙ ค่ำ ปีวอก ฉศก จุลศักราช ๑๒๔๖ ตรงกับวันที่ ๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๒๗ ลำดับที่ ๔๙ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

ได้เสด็จไปทรงศึกษาวิชาการในประเทศอังกฤษ ต่อมาก็ให้ทรงข้ามมาศึกษา ณ ประเทศเยอรมนีไปรับ ปริญญาเป็นดอกเตอร์ วิทสตาตส์ วิสเซนชัฟท์ ในมหาวิทยาลัยทุบบิงเงน

ในรัชกาลที่ ๕ เมื่อทรงจบการศึกษาแล้ว ได้เสด็จกลับมารับราชการเป็นอำมาตรย์เอก เจ้ากรมพลัมภัง กระทรวงมหาดไทย

ในรัชกาลที่ ๖ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ สถาปนาเป็นกรมหมื่นสรรควิสัยนรบดีเมื่อปีชวด จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๗๔ พ.ศ. ๒๔๕๕

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาวชิรวุธ ฯ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชดำริว่า พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าดิลกนพรัฐได้เสด็จออกไปทรงศึกษาวิชา ณ ประเทศยุโรปที่เมืองอังกฤษก่อน แล้วได้เสด็จไปศึกษาในประเทศเยอรมนีต่อไป จนทรงสอบไล่ได้ประกาศนียบัตรเปนเปรียญรู้ในอรรถคดี ครั้งรัตนโกสินทรศก ๑๒๖ เสร็จการศึกษาแล้ว ได้เสร็จกลับมารับราชการในกระทรวงมหาดไทยในหน้าที่ ปลัดกรมพิเศษแผนกอัยการต่างประเทศ แล้วเปนปลัดสำรวจกรมมหาดไทยฝ่ายเหนือและเป็นเจ้ากรม เลขานุการเปนลำดับมา ในบัดนี้ได้ดำรงพระเกียรติยศในตำแหน่งผู้ช่วยราชปลัดทูลฉลองกระทรวงมหาดไทย และเจ้ากรมพลัมภัง ทรงพระปรีชาสามารถอาจให้ราชกิจในหน้าที่นั้นๆ สำเร็จโดยเรียบร้อยตลอดมา บัดนี้ก็ทรงวัยวุฒิสมควรจะได้รับพระเกียรติยศเปนเจ้ากรมต่างกรมพระองค์ ๑ ได้

จึงมีพระบรมราชโองการ ดำรัสสั่งให้สถาปนาพระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าดิลกนพรัฐ ขั้นเปนพระองค์เจ้าต่างกรม มีพระนามตามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นสรรควิสัยนรบดี อัชนาม ทรงศักดินา ๑๕,๐๐๐ ตามพระราชกำหนดอย่างพระองค์เจ้าต่างกรม ในพระบรมมหาราชวัง

เจ้ากรม เปนหมื่นสรรควสัยนรบดี ถือศักดินา ๖๐๐
ให้ทรงตั้ง ปลัดกรม เปนหมื่นอุไทยธานีนรสมาคม ถือศักดินา  ๕๐๐
สมุหบาญชี เปนหมื่นมโนรมนรานุรักษ์ ถือศักดินา ๓๐๐

ต่อมาให้ทรงเลื่อนเป็นมหาอำมาตรย์ตรี คงตำแหน่งในกระทรวงมหาดไทย

สิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ ๖ เมื่อวันอาทิตย์ เดือนยี่ ขึ้น ๖ ค่ำ ปีชวด จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๗๔ ตรงกับวันที่ ๑๒ มกราคม พ.ศ. ๒๔๕๕

พระชันษา ๒๙ ปี

เจ้าจอมมารดาเจ้าทิพเกสร ชาวเชียงใหม่ (ท่านเป็นธิดาเจ้าน้อยมหาพรหมและเจ้าอุบลวรรณา)

“น้าแข”  (พระองค์เจ้าหญิงแขไขดวง)

ประสูติเมื่อวันจันทร์ เดือนยี่ ขึ้น ๓ ค่ำ ปีกุน เบญจศก จุลศักราช ๑๒๒๕ ตรงกับวันที่ ๑๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๐๖ ลำดับที่ ๖๘ ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

สิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ ๗ เมื่อวันจันทร์ เดือน ๙ ขึ้น ๑๔ ค่ำ ปีมะเส็ง เอกศก จุลศักราช ๑๒๙๑ ตรงกับวันที่ ๑๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๒

พระชันษา ๖๖ ปี

ที่ ๘ ในเจ้าจอมมารดาเที่ยง

“น้าประดิษฐา” (พระองค์เจ้าหญิงประดิษฐาสารี)

ประสูติเมื่อวันพุธ เดือน ๘ แรม ๑๑ ค่ำ ปีฉลู สัปตศก จุลศักราช ๑๒๒๗ ตรงกับวันที่ ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๐๘ ลำดับที่ ๗๕ ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

สิ้นพระชนม์ในรัชกาลปัจจุบัน (รัชกาลที่ ๙) เมื่อวันจันทร์ เดือน ๔ แรม ๙ ค่ำ ปีขาล จัตวาศก จุลศักราช ๑๓๒๔ ตรงกับวันที่ ๑๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๐๕

พระชันษา  ๙๗ ปี

ที่ ๒ ในเจ้าจอมมารดาดวงคำ

“กรมหลวงวรศักดา” (พระองค์เจ้าชายอรุณวงศ์)

ประสูติเมื่อวันอาทิตย์ เดือน ๗ แรม ๖ ค่ำ ปีวอก จัตวาศก จุลศักราช ๑๑๗๔ ตรงกับวันที่ ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๓๕๕ ลำดับที่ ๕๘ ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย

ใน พ.ศ. ๒๓๙๔ รัชกาลที่ ๔ โปรดเกล้า ฯ ให้สถาปนาขึ้นเปน กรมหมื่นวรศักดาพิศาล

มีพระบรมราชโองการ มานพระบัณฑูรสุรสิงหนาทดำรัสสั่งให้สถาปนาพระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้า อรุณวงศ์ เปนกรมหมื่นวรศักดาพิศาล นาคนาม จงเจริญ พระชนมายุ พรรณะ สุขะ พละ ศิริสวัสดิ์ เทอญ

เจ้ากรม เปนหมื่นวรศักดาพิศาล ถือศักดินา ๖๐๐
ให้ทรงตั้ง ปลัดกรม เปนหมื่นชำนาญราชกิจ ถือศักดินา  ๔๐๐
สมุหบาญชี เปนหมื่นวินิจพลขันธ์ ถือศักดินา ๓๐๐

ในปีจอ พ.ศ. ๒๔๑๗ รัชกาลที่ ๕ โปรดเกล้า ฯ ให้เลื่อนกรมขึ้นเป็น กรมหลวง

มีพระนามตามจารึกในพระสุพรรณบัฎว่า พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวรศักดาพิศาล สุพฒนาการสวัสดิ คชนาม ทรงศักดินา ๑๕,๐๐๐ ตามกำหนดอย่างธรรมเนียมพระองค์เจ้าต่างกรมในพระบรมมหาราชวัง

เจ้ากรม เปนหลวงวรศักดาพิศาล ถือศักดินา ๖๐๐
ให้ทรงตั้ง ปลัดกรม เปนขุนชำนาญราชกิจ ถือศักดินา  ๕๐๐
สมุหบาญชี เปนหมื่นวินิจพลขันธ์ ถือศักดินา ๓๐๐

ในรัชกาลที่ ๔ ได้ว่ากรมกองแก้วจินดาและกรมช่างหล่อ

สิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ ๕ เมื่อวันศุกร์ เดือน ๘ อุตราสาฒ แรม ๔ ค่ำ ปีชวด สัมฤทธิศก จุลศักราช ๑๒๕๐ ตรงกับวันที่ ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๓๑

พระชันษา  ๗๖ ปี

ทรงเป็นต้นราชสกุล  อรุณวงศ์ ในเจ้าจอมมารดาเอม (ท่านเป็นธิดาพระยารัตนจักร (หงส์ทอง))

หน้า จาก ๒๗ หน้า